รีวิวโดยบุ๊คเมท

  • ประกาศิตจอมราชันย์ ล.20 ต.แนวรบแห่งมหาสง Quick View

    237.00

    213.30 บาท

    "ประกาศิตจอมราชันย์"ด้วยเรื่องนี้เป็นแนวกำลังภายในเรื่องแรกที่เคยได้อ่านและยังเป็นกำลังภายในของเกาหลีอีกด้วย(ไม่เคยเห็นมาก่อน 555)ในส่วนของเนื้อเรื่องนั้นเข้มข้นชวนติดตามอย่างมาก เรียกได้ว่าอ่านกันลืมวันคืนเลยทีเดียว ประกาศิตจอมราชันย์นั้นตอนนี้มีทั้งหมด 20 เล่ม แบ่งเป็น 2 ภาคคือ ภาคยุทธจักรและภาคภพวิญญาณ ภายในเนื้อเรื่องนั้นจะแฝงแง่คิดต่างๆไว้มากมาย และยังมีคำอธิบายถึงคำศัพท์ต่างๆท้ายเล่มอีกด้วยเพื่อเพิ่มอรรถรสในการอ่าน Bookworm by fan page Eakkaphak Veerapattaragul
    อ่านต่อ >
  • The Hunger Games II ปีกแห่งไฟ Quick View

    295.00

    265.50 บาท

    "The Hunger Game : Catching Fire"ปฏิเสธความแรงของภาพยนตร์ไม่ได้เลย จนต้องหามาอ่าน เมื่ออ่านแล้ว เราจะรู้สึกเหมือนเรากำลังร่วมเล่นในเกมส์นี้เลยล่ะแล้ว แคตนิส เอฟเวอร์ดีน จะทำให้คุณรู้ว่า "เพียงสะเก็ดไฟ ก็สามารถก่อเป็นไฟได้"Bookworm by fan page Monster Piccy
    อ่านต่อ >
  • 1Q84 เล่ม 1 Quick View

    425.00

    382.50 บาท

    "หากไร้ซึ่งความรัก ทุกสิ่งก็เป็นเพียงละครชั้นเลวเท่านั้น" หรือที่อาโอมาเมะคิด "...วิธีตายที่น่าพึงใจมีอยู่ในโลกนี้ด้วยหรือ"ตั้งแต่ตอนที่เห็น 1Q84 ทั้งสองเล่ม เห็นขนาดความหนากว่า 849 หน้า ก็แอบคิดอยู่ในใจว่า "จะต้องใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะอ่านมันจบ นี่แค่เล่มแรกนะ" แต่เมื่อจับขึ้นมาแล้ว แค่อาทิตย์เดียวก็เรียบร้อย เพราะทั้งไอเดีย พล็อตเรื่องที่ทั้งแปลกและแหวกแนว แถมชวนติดตามล่าหาความจริงว่า ไอ้นั่นคืออะไร ไอ้นี่มันเป็นอะไรกันแน่ จริงๆ แล้วไอ้โน่นมันคือไอ้นู่นหรือเปล่า ปล่อยให้เดากันไปต่างๆ นานา วิ่งไล่ล่าทั้งความจริงในเรื่อง และยังไล่ล่าความคิดของมุราคามิอีก นี่เลยเป็นที่มาของสปีดการพลิกหน้ากระดาษแบบเร็วกว่าที่คิดไว้ ถ้าใครเริ่มเบื่อนิยายพล็อตธรรมดา ที่เปิดยังไม่ถึงครึ่งเล่ม ก็เดาตอนจบได้แล้ว เรื่องนี้เป็นหนังสืออีกชุดที่น่าิติดตามนะคะ
    อ่านต่อ >
  • เดอะเมดิเอเตอร์ เล่ม 1 ตอน รักเธอให้ตาย Quick View

    139.00

    98.00 บาท

    เดอะ เมดิเอเตอร์ I ตอน รักเธอให้ตาย ซูซานน่าห์เห็นผี! ไม่ใช่แค่ตัวเดียวหรือสองตัว แต่เธอเห็นมันหมดทุกตัวเลย แล้วนั่นมันก็ออกจะเป็นเรื่องที่เกินทนสำหรับเด็กผู้หญิงมัธยมปลายคนหนึ่ง ผู้ต้องการแค่มีชีวิตที่สุขสงบ ปราศจากวิญญาณชาวบ้านมาเพ่นพ่านกวนใจและเมื่อเธอย้ายจากนิวยอร์กมาอยู่แคลิฟอร์เนีย ซูซานน่าห์ก็หวังว่าจะได้เริ่มต้นชีวิตที่ปลอดวิญญาณ แต่แค่เข้ามาในห้องนอนใหม่ เธอก็เจอผีเสียแล้ว จะดีอยู่หน่อยก็ตรงที่เขาหล่อ แต่ก็แล้วไงล่ะ จะหล่อแค่ไหนก็ยังเป็นผีอยู่ดี แถมเป็นผีที่ออกจะลึกลับเสียด้วย แต่ซูซานน่าห์ก็ไม่มีเวลามานั่งกังวลใจเรื่องผีสุดหล่อในห้อง เพราะที่เธอคิดไปว่าจะได้มีชีวิตดีๆ ที่แคลิฟอร์เนียนั้น มันดูจะเป็นไปไม่ได้เลย แต่นี้ต่อไป เธอจะต้องมาพัวพันกับผีที่แคลิฟอร์เนียหลายตัว ที่ทำเอานักเจรจาอย่างเธอต้องทำตัวเป็นทั้งนักสืบและนักสู้ แถมเธอยังพบว่าไฮสกูลในแคลิฟอร์เนียที่แสนจะยุ่งวุ่นวาย เพื่อนนักเรียนแต่ละคนทั้งแสบทั้งร้าย ไม่แพ้ผีที่ตายในเมืองแดดสวยแห่งนี้เลย...มีทั้งหมด 6 เล่มจบ เรื่องนี้สนุกมากๆค่ะ อ่านแบบข้ามวันกันเลยทีเดียว อ่านยิ่งกว่าหนังสือเรียนเสียอีก เป็นหนังสือมักจะที่แนะนำเพื่อนๆอ่าน...Bookworm by K.Nuthathai Phipornpong
    อ่านต่อ >
  • ประชาธิปไตยบนเส้นขนาน (พิมพ์ใหม่) Quick View

    195.00

    175.50 บาท

    ...เป็นหนึ่งในหนังสือที่ชอบมากๆ เรียกว่าเก็บเงินซื้อเป็นล็อตต้นๆ ที่ได้งานทำเป็นเรื่องเป็นราว ปกนี้เป็นฉบับปรับปรุงครั้งที่ 2 ปัจจุบันมีปกใหม่แล้วคะ ประชาธิปไตยบนเส้นขนาน เป็นนวนิยายปี 2537 ที่รังสรรค์ขึ้นโดยคุณวินทร์ เลียววาริณ ซึ่งสามารถคว้ารางวัลมากมายจากงานนี้เรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นรางวัลดีเด่นจากคณะกรรมการพัฒนาหนังสือแห่งชาติ ปี 2538, รางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน(ซีไรต์) ปี 2540 และหนังสือดีสำหรับเด็กและเยาวชน (อายุ 16-18 ปี) พ.ศ. 2541-2542 เรื่องราวที่เกิดขึ้นภายในนวนิยายเรื่องนี้เป็นการเชื่อมโยงเหตุการณ์จริงของประวัติศาสตร์การเมืองไทยตั้งแต่ยุคปฏิวัติการปกครองในปี 2475 จนถึงเหตุการณ์ "พฤษภาทมิฬ" ในปี 2535 ประยุกต์กับการสร้างพล็อตนิยายที่มีเรื่องราวสอดคล้องกันระหว่าง เหตุการณ์จริง กับเหตุการณ์ของ "ตัวละครสมมุติ" ในเรื่องซึ่งผู้เขียนได้จินตนาการขึ้น โดยใช้เหตุการณ์ทางการเมืองครั้งสำคัญ 11 เหตุการณ์ ถ่ายทอดเป็น 11 เรื่องสั้น ตามปีที่เกิดเหตุการณ์ขึ้นจริง โดยเล่าเรื่องราวผ่าน 2 ตัวละครหลักคือ "ตุ้ย พันเข็ม" และ "เสือย้อย" ที่มีอุดมการณ์เกี่ยวกับประชาธิปไตย และความรักในระบอบความเป็นชาติคล้ายคลึงกัน แต่วิธีการในการแสดงออกซึ่งอุดมการณ์เหล่านั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ในภาคของ "ตุ้ย พันเข็ม" จะถ่ายทอดอุดมการณ์ของตนเองในแบบของผู้พิทักษ์สันติราษฏร์ ผู้ถือกฎหมาย คนของภาครัฐที่ทำเพื่อประชาชนและประเทศชาติ และมีแนวคิดว่า "ความอยุติธรรมหาทางออกได้ด้วยกฎหมาย" ส่วนในภาคของ "เสือย้อย" ที่อยู่ในคราบของโจร ไม่เห็นด้วยว่า "กฎหมายจะสามารถขจัดความอยุติธรรมบนโลกนี้ได้" ซึ่งในเรื่อง... บทบาทของเสือย้อยที่มีต่อการช่วยเหลือประเทศชาติไม่ต่างกันกับ "ตุ้ย พันเข็ม" เลย เพียงแต่วิธีการที่เขาใช้ไม่ได้เดินตามกฎหมายที่สังคมกำหนดไว้เท่านั้นเอง วิธีคิดที่แตกต่าง มุมมองที่แตกต่าง นำมาซึ่งวิธีการในการเลือกปฏิบัติที่แตกต่าง แม้ภายใต้อุดมการณ์เดียวกัน ตัวละคร "ตุ้ย พันเข็ม" กับ "เสือย้อย" จึงเปรียบเสมือน "เส้นขนานของประชาธิปไตย" สะท้อนภาพใน "มุมสว่าง" และ"มุมมืด" ของคนที่เรียกตนว่า "นักประชาธิปไตย" แท้จริงแล้วควรเป็นเช่นไร ดิฉันอ่านเรื่องนี้มาตั้งแต่ตอน ปวส.3 (ม.6) ในฉบับแรก (มีฉบับปรับปรุงใหม่ที่ผู้เขียนได้ตัดทอน - เพิ่มเติม ดัดแปลงรายละเอียดบางส่วน เพื่อให้เรื่องกระชับและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น) ในตอนที่ดิฉันอ่านเป็นช่วงเวลาที่ผ่านเหตุการณ์ "พฤษภาทมิฬ" มาได้ประมาณ 5-6 ปีแล้ว อรรถรสที่ได้จึงเพื่อความบันเทิงเพียงเท่านั้น แต่พอมาถึงการเมืองยุคทุนนิยม การล่มสลายของรัฐบาลทุนนิยม การประท้วง การเรียกร้องอำนาจประชาธิปไตยคืนสู่ประชาชน ทำให้ดิฉันนึกถึงนวนิยายเรื่องนี้อีกรอบ (รอบนี้ดิฉันได้อ่านฉบับปรับปรุงใหม่ 2546) และเริ่มทำความเข้าใจกับลำดับเหตุการณ์ของประชาธิปไตยในไทย ตั้งแต่ยุคการเปลี่ยนแปลงการปกครองจนถึงเหตุการณ์ "พฤษภาทมิฬ" ซึ่งเป็นเรื่องราวสิ้นสุดลงในเรื่อง จากเรื่องที่อ่าน แม้จะเป็นนิยาย แต่ก็อิงประวัติศาสตร์ทางการเมืองอยู่ไม่น้อย ผนวกกับเหตุการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน และจากลำดับเหตุการณ์ต่างๆ จากการรัฐประหารยึดอำนาจครั้งแล้วครั้งเล่า การเป็นรัฐบาลไม่ครบยุคครบสมัย การยุบสภาก่อนครบวาระ ด้วยเหตุผลที่คล้ายคลึงกัน "คอร์รัปชั่น" ที่กลายเป็นวงจรอุบาทว์ เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าทำให้ดิฉันเกิดความรู้สึกอย่างหนึ่ง "คอร์รัปชั่น ตัวการสำคัญที่ทำให้การเมืองไทยไม่แข็งแรง" และอีกปัจจัยหนึ่ง ในความรู้สึกส่วนตัว ดิฉันมองว่า ที่การเมืองไทยไม่แข็งแรง อาจเป็นเพราะประชาธิปไตยไทยมีจุดเริ่มต้นที่รวดเร็วมาก ทำให้มีการรัฐประหารยึดอำนาจบ่อยครั้ง เปลี่ยนรัฐบาลใหม่ก่อนกำหนด ยุบสภาหนี้ปัญหาคอร์รัปชั่น การเมืองไทยเป็นเช่นนี้ตลอดกว่า 70 ปีที่เรามีประชาธิปไตยมา และอีกหนึ่งเหตุผลในการสั่นคลอนความมั่นคงทางการเมืองและประเทศชาติ คงหนีไม่พ้นเรื่องของ "ความไม่สามัคคี" ซึ่งมีหลายเหตุการณ์ในหนังสือเรื่องนี้ ก็แสดงชัดว่า ความแตกความสามัคคี เป็นที่มาของจุดเสื่อมในสังคม ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่เลย ในทุกยุคทุกสมัยในอดีตอันเนิ่นนาน เรื่องการขาดความสามัคคีก็เป็น อาวุธร้ายในการทำลายล้างประเทศชาติ การประท้วงกันไม่รู้จบ มากมายหลายฝ่าย จนไม่รู้ฝ่ายไหนเป็นฝ่ายไหน มองไม่ออกว่าใครทำเพื่อใคร ทำเพื่อประชาชน เพื่อประเทศชาติอย่างที่กล่าวอ้างจริงหรือไม่? จนถึงภาพความรุนแรงที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานนี้ ดิฉันเริ่มถามตัวเองว่า ประชาธิปไตยคืออะไร? แบบที่เราเป็นอยู่ แบบที่เราเห็นกันอยู่ เรียกว่า ประชาธิปไตยหรือไม่? ดิฉันเริ่มสับสนและเริ่มนึกถึงนิยายเรื่องนี้อีกครั้ง เพราะดิฉันคิดถึง "ตุ้ย พันเข็ม" ตัวแทนความดีของกฎหมายของคนถือกฎหมาย มีอำนาจอยู่ในมือแล้วทำเพื่อประเทศชาติอย่างแท้จริง และดิฉันคิดถึง "เสือย้อย" ตัวแทนของคนในมุมมืด คนที่อยู่ในคราบของโจร แต่ทำเพื่อประเทศชาติในแบบ และวิธีการของเขา เขาทั้ง 2 สองคน แตกต่างกันด้วยวิธีการ แต่มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน คือ ความรักประเทศชาติ แต่คนที่อยู่ในคราบของนักบริหารบ้านเมือง นักเอ่ยอ้างว่าตัวเป็นผู้เรียกร้องสิทธิเพื่อประชาธิปไตยในปัจจุบัน ดิฉันไม่แน่ใจว่า เขายืนกันคนละมุม คนละที่ แต่ยังทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติเหมือนกันหรือไม่ หรืออยู่คนละฝั่งคนละฟาก และยังทำเพื่อผลประโยชน์ของพวกพ้องตัวเองอยู่เท่านั้นด้วย "เส้นขนานของประชาธิปไตย" ในโลกของนวนิยายคุณวินทร์ ดิฉันขออนุญาตตีความเอาเองว่า ทั้ง 2 เส้นขนานเป็นวิถีทางที่มีผลดีต่อส่วนรวมทั้งสิ้น  แต่ "เส้นขนานของประชาธิปไตย" บนโลกแห่งความเป็นจริง ดิฉันไม่อาจแน่ใจได้เลยว่ามีเรื่องใดบ้างที่เป็นผลดีต่อส่วนรวม?
    อ่านต่อ >
  • รีเบคกา (Rebecca) Quick View

    345.00

    310.50 บาท

    หนังสือเล่มนี้เป็นเล่มโปรดเลยค่ะ นักเขียน เขียนดีมาก บรรยายตัวละครได้ีดีเยี่ยม อย่างรีเบคกาจะได้ความรู้สึกเหมือนกับว่าเธอยังมีตัวตนอยู่ ส่วนการบรรยายแมนเดอร์ลีย์ก็บรรยายได้เริ่ดมาก สำนวนเรื่องนี้สละสลวย ประทับใจมากค่ะ Bookworm by fan page Coffee Day
    อ่านต่อ >
  • ครอบครัวปิศาจ 1 ครอบครัวผมไม่ใช่คน Quick View

    160.00

    144.00 บาท

    ซีรีส์ครอบครัวปิศาจ เป็นอะไรที่สนุกจริง อ่านไปก็หัวเราะไป เป็นครอบครัวที่แปลกประหลาดจริงๆ ^[]^ ลองหาอ่านดูได้นะจ๊ะ. ฺBookworm by fan page เนม แทม
    อ่านต่อ >
  • ความสุขโดยสังเกต Quick View

    170.00

    153.00 บาท

     "ความสุขโดยสังเกต" เขียนโดยพี่เอ๋หรือนิ้วกลม เล่มนี้ชอบมากค่ะ อ่านแล้วพบว่ามีความสุขมากมายอยู่รอบๆตัวเราจริงๆ อยากจะแบ่งปันความสุขให้ทุกท่านได้อ่านกันนะคะ :)ฺBookworm by fan page Aueng KwanchaNok
    อ่านต่อ >
  • ปลาที่ว่ายนอกสนามฟุตบอล Quick View

    215.00

    193.50 บาท

    ปลาที่ว่ายนอกสนามฟุตบอล เป็น 1 ใน 2 ผลงานล่าสุดของนักเขียนซีไรต์ วินทร์ เลียววาริณ อีกเล่มคือ สองปีกของความฝัน ซึ่ง ปลาที่ว่ายนอกสนามฟุตบอล เป็นภาคต่อของ ปลาที่ว่ายในสนามฟุตบอล ซึ่งแบ่งเป็น 4 ภาคใหญ่ๆ ได้แก่ 1. จักรวาล 2. ชีวิต 3. ผู้สร้างจักรวาล 4. จิต หากใครไม่รู้จักคุณวินทร์ เลียววาริณ (น่าจะน้อยคนน่ะ) ขอแนะนำสั้นๆ คุณวินทร์คือนักเขียน นักคิด นักสร้างสรรค์งานเขียนแนวใหม่ (คำนี้ผมคิดขึ้นเอง) ซึ่งมีผลงานหลากหลายรูปแบบ และมีผลงานใหม่ๆออกมาอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่จะออกผลงานใหม่ในช่วงงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติช่วงเดือนมีนาคม และงานมหกรรมหนังสือแห่งชาติช่วงตุลาคม ซึ่งมีจัดทุกปี คุณวินทร์ ได้รับรางวัลจากงานเขียนหลายชิ้น ซึ่งรางวัลใหญ่สุดคงเป็นรางวัลซีไรต์ 2 สมัยจาก ประชาธิปไตยบนเส้นขนาน  นวนิยายอิงประวัติศาสตร์การเมืองของไทย เมื่อปี พ.ศ. 2540 และ สิ่งมีชีิวตที่เรียกว่าคน รวมเรื่องสั้นแนวทดลอง ที่วิเคราะห์ความคิด และการกระทำของมนุษย์...  ปลาที่ว่ายนอกสนามฟุตบอล นั้นเป็นหนังสือแนวสารคดีด้านวิทยาศาสตร์ ร่วมด้วยจักรวาลวิทยา ตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องจักรวาล การกำเนิดโลกและมนุษย์ และคำถามเชิงอภิปรัชญา โดยใช้วิทยาศาสตร์เป็นเครื่องมือในการหาคำตอบ ผลงาน ปลาที่ว่ายนอกสนามฟุตบอล นั้น ก็พอๆ กับ ปลาที่ว่ายในสนามฟุตบอล ผลงานในชุดเดียวกันก่อนหน้านี้ ซึ่งผู้อ่านที่จะได้รับประโยชน์ถึงที่สุดนั้น ควรมีพื้นฐานความรู้ หรือเคยอ่านผลงานทางด้านวิทยาศาสตร์ ดาราศาสตร์ ศาสนา และปรัชญา มาพอสมควร ถึงจะสามารถซึมซับความรู้ที่ได้จากหนังสือเล่มนี้ (มุมมองส่วนตัวน่ะครับ เพราะบางส่วน ผมไม่มีความรู้ อ่านไปแล้ว ก็จะมึนๆ บ้าง) แต่ถ้าใครไม่เคยอ่าน ก็ลองพยายามอ่านดูน่ะครับ อาจจะย่อยยากไปนิด แต่คุณวินทร์ก็คำนึงถึงผู้อ่านครับ เพราะได้มีการอธิบายเรื่องที่จะกล่าวถึงในเบื้องต้น เพื่อปูพื้นความรู้ให้กับผู้อ่านก่อนที่จะพาเข้าไปสู่เรื่องราวที่ต้องการนำเสนอ ซึ่งนอกจากจะสนุกไปกับสำนวนในการถ่ายเรื่องราว รวมถึงความรู้ในศาสตร์ต่างๆ ที่อยู่ในภาคภาษาอังกฤษ มาสรุปถ่ายทอดให้ (เนื่องจากหนังสือดีๆ บางเล่มในต่างประเทศ สำนักพิมพ์ของไทย ก็ไม่ได้ซื้อลิขสิทธิ์มาแปลเป็นภาษาไทย) คุณวินทร์ยังได้นำเรื่องสั้นทางวิทยาศาสตร์ ภาพยนตร์ หนังสือ รวมถึงข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ มาใช้อ้างอิง เปรียบเทียบ ซึ่งมีส่วนช่วยอย่างมากในการอ่าน เรื่องที่เราอาจทำความเข้าใจได้ยาก ให้เข้าใจง่ายยิ่งขึ้น ผมสังเกตว่าทุกวันนี้หนังสือที่ให้ 'ความรู้' มีอยู่มากมาย แต่หนังสือทีให้ 'ความคิด' นั้นมีไม่มาก และ ปลาที่ว่ายนอกสนามฟุตบอล คือหนึ่งในนั้น หนังสือเล่มนี้คงไม่ค่อยเหมาะกับเด็กๆ เท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นเยาวชน น่าจะได้ประโยชน์ที่สุด ข้อแม้เพียงอย่างเดียวของผู้ที่คิดจะอ่านหนังสือเล่มนี้คือ หากคุณเป็นที่มีความเชื่อฝังหัว ยึิดติดกับมุมมองของตัวเองในระดับที่สูงนั้น คงอ่านไม่ได้ เพราะหนังสือเล่มนี้จะท้าทายความเชื่อ ความคิด ทัศนคติของผู้อ่าน ว่าสิ่งที่เราเชื่อหรือเห็นในเป็นเช่นนั้น จริงๆ แล้วก็เป็นเพียงแง่มุมหนึ่งเท่านั้น ยังมีอีกหลายแง่มุมที่เราอาจยังไม่พบ ไม่ได้นึกถึง ช่วยกระตุ้นสมองของคุณให้คิดในมุมอื่นๆ นอกจากมุมที่คุณเชื่อถืออยู่นี้เป็นสิ่งที่มีค่ามากที่สุด เท่าที่หนังสือเล่มหนึ่งจะมอบให้กับผู้อ่านได้ ผมแนะนำครับสำหรับ ปลาที่ว่ายนอกสนามฟุตบอล และหากใครต้องการได้อรรถรสในการอ่านที่สมบูรณ์ ควรหาหนังสือ ปลาที่ว่ายในสนามฟุตบอล มาอ่านก่อนครับ แบ่งปันให้เพื่อนๆ อ่านน่ะครับ
    อ่านต่อ >
  • สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคน Quick View

    220.00

    198.00 บาท

    ในบรรดานักเขียนไทยที่สร้างสรรค์งานในเชิงทดลอง ชื่อของ วินทร์ เลียววาริณ ถือเป็นนักเขียนในแนวทางนี้ ที่ยืนอยู่ตรงแถวหน้า ผลงานล่าสุดของเขา... รวมเรื่องสั้น สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคน  นับเป็นงานสร้างสรรค์ที่มีมิติของการแสดงความสำคัญในคุณค่าของวรรณกรรมทั้ง รูปแบบ เนื้อหาและความคิด ผ่านการตีค่าของความเป็นคนในประเด็นที่ว่า คนทุกคนคือสิ่งที่มีความคิด... เป็นสิ่งมีชีวิตที่แรงขับเคลื่อนทางกายและใจถูกผลักดันโดยขบวนการแห่งความสงสัยใคร่รู้      แน่นอนที่สุด ที่เราสามารถยืนยันได้ว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกนี้ ล้วนมีปริศนาด้านความหมายและการตีความที่ถูกควบคุมอยู่ โดยบางสิ่งที่เราไม่รู้ไม่เห็นมากมาย ภารกิจของความเป็นคนในยุคสมัยปัจจุบันไม่ว่าจะอยู่ในสถานะใด จึงอยู่ที่การพยายามตั้งคำถามหรือการพยายามตั้งข้อสงสัย เพื่อนำไปสู่การแสวงหา และสืบค้นถึงความจริง       วินทร์ เลียววาริณ นำเสนอวิธีการใฝ่หาความจริงของเขาในเรื่องราวของความเป็นคนด้วยมุมมองของ ‘ความเป็นเรื่องสั้น’ จำนวน 17 เรื่อง 17 แง่มุมของความคิดโดยย้อนไปในอดีตนับล้านปี และผูกโยงมาถึงอายุขัยของโลก นับแต่กำเนิดของสิ่งมีชีวิต ซึ่งเป็นสัตว์เซลล์เดียวเรื่อยมาจนถึงวิวัฒนาการแห่งสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า ‘คน’ เหมือนเช่นในปัจจุบัน    วินทร์พยายามจะอธิบายข้อสงสัยต่างๆ ของความเป็นคน ผ่านทั้งทางศาสตร์และสำนึกต่างๆมากมายไม่ว่าจะเป็นในด้านของสังคม การเมือง ศาสนา ธรรมชาติวิทยา เทคโนโลยีแผนใหม่ ฯลฯ ซึ่งสามารถบอกได้ว่าในฐานะของความเป็นนักเขียน เขาได้ทุ่มเทศึกษาอย่างเต็มที่ในสิ่งต่างๆที่เขามีข้อสงสัย  “เคยสงสัยว่า...หน้ากากติดมากับคนตั้งแต่ช่วงไหนของอารยธรรมมนุษย์  ใช่ไหมว่า...มันมาพร้อมกับสิ่งที่เรียกว่าวัฒนธรรม? ยิ่งวัฒนธรรมพัฒนาไป หน้ากากก็ยิ่งมีหลายใบ? คำถามคือ...ในเมื่อเราทุกคนที่รู้ว่าเราสวมหน้ากากเข้าหากันต่างรู้สึกไม่เป็นธรรมชาติเหมือนกัน “ทำไมยังต้องสวมอยู่ ทำไมสลัดมันไม่หลุด”   ข้อสงสัยในประเด็นตัวอย่างข้างต้นดูเหมือนจะถูกแจกแจงเพื่อค้นหาคำตอบด้วยหลักการแห่งการวิเคราะห์ (Rule of Synthesis) อันหมายถึงการนำเอาแต่ละส่วนที่วิเคราะห์มาผูกเกี่ยวเข้าด้วยกันเพื่อชี้ให้เห็นภาพรวมโดยใช้หลักการในลักษณะ ตรรกะของการสรุป (deduction) โดยเริ่มจากง่ายไปสู่ยากหรือไปสู่การสรุปที่มีความซับซ้อนในที่สุด   จากประเด็นดังกล่าว วินทร์ ให้ข้อสรุปว่า... ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็น ‘พิมพ์เขียวของชีวิต’ หรือเป็นเพราะ ‘การวิวัฒนาการของระบบสังคม’ กันแน่      การใช้วิธีการเช่นนี้ในการอธิบายความและให้ข้อสรุปเรื่องราวใดเรื่องราวหนึ่ง ที่ถูกนำมาผูกเป็นเนื้อหาของเรื่องสั้นแต่ละเรื่อง... ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องโดยลำดับจากเรื่องสั้นแต่ละเรื่องแรกไป จนถึงเรื่องสุดท้าย ทั้ง 17 เรื่องถูกอธิบายและหาขยายแก่นแห่งสาระด้วยข้อเขียนเชิงบทความที่มองเห็นถึงการทุ่มเทจิตใจอย่างเต็มที่ของวินทร์ในฐานะผู้เขียนที่จะได้มาซึ่งข้อเท็จจริง ในประเด็นข้อสงสัยนั้นๆ อย่างเต็มที่   เรื่องสั้นทั้งหมดของเราเปรียบได้ดั่งภาพตัวอย่างที่เป็นภาคขยายของ ‘ความคิด’ ในการปรารถนาคำตอบที่ยังคงอยู่ในความมืดมนทั้งด้านนอกและด้านในของชีวิตมนุษย์ ซึ่งก็พอจะสรุปความโดยรวมได้ว่า ในการเกิดมาเป็นคน ทุกๆคนต้องการที่จะมีชีวิตที่ดีงาม (Good Life) แต่ทำไมคนแต่ละคนถึงไปตรงที่นั้นได้ยากยิ่ง   การมีชีวิตที่ดีงามคืออะไร? นั่นเป็นคำถามที่ถูกระบุคำตอบโดยรวมว่า ชีวิตจะดีหรือไม่ดีนั้นขึ้นอยู่ที่ ‘แบบแผนของการดำเนินชีวิต’ ของบุคคลมากกว่า ‘รูปแบบเบ็ดเสร็จของชีวิต’  นั่นเป็นสิ่งที่วินทร์สามารถอธิบายผ่านความคิดในระบบต่างๆ ที่นำมาจับประเด็นในการตีความหมายได้ว่า “ชีวิตที่ไม่ดีคือชีวิตที่ไม่ยืดหยุ่น ไร้เป้าหมายและไร้ทิศทางในการดำเนินชีวิต ชีวิตที่ดีไม่ใช่คนที่ประสบผลสำเร็จในชีวิตด้านต่างๆ คนคนนั้นอาจมีชีวิตที่ขาดๆเกินๆ แต่เขามีเป้าหมายในการดำเนินชีวิต และไม่ตกเป็นทาสที่ผูกมัดของสิ่งใดไม่ว่าจะเป็นค่านิยม ประเพณี หรือวัฒนธรรม”   ในเรื่องสั้น หมากลางถนน และ เพชฌฆาต... วินทร์เหมือนต้องการที่จะแสดงว่า... ภาวะแห่งความเป็นคน.. ต้องดำเนินไปด้วยการเปิดตาเปิดใจรับรู้ความคิดความรู้สึกของตนอย่างจริงใจ และด้วยความตั้งใจไม่ว่าความคิด ความรู้สึกนั้นจะเป็นด้านบวกหรือด้านลบก็ตาม  ส่วนในเรื่องสั้น ลั่นทมโรยกลีบ และ กระถางชะเนียงริมหน้าต่าง... การมีชีวิตอยู่กับปัจจุบันโดยไม่ผูกมัดตนเองกับประสบการณ์ของอดีตและหมกมุ่นต่อสิ่งที่จะเป็นไปในอนาคตถูกแสดงออกมาอย่างน่าพินิจพิเคราะห์    การพูดถึงคนในฐานะแห่งการมีชีวิตที่ดี นับเป็นเรื่องที่ยากที่จะอธิบาย โดยเฉพาะในขณะที่ที่โลกแห่งชีวิต เต็มไปด้วยบริบทที่ซับซ้อนและยากแก่การเข้าใจเหมือนเช่นในปัจจุบัน  ในเรื่องสั้น กามสุขัลลิกานุโยค และ ละครจริงที่ห้องขาวดำ ภาวะของ ‘คน’ ที่แสดงออกมาถึงความรู้สึกอิสรเสรีที่จะทำอะไรหรือเล่นบทบาทอะไรก็ได้ในชีวิต แต่ความรู้สึกนั้นจะต้องเกิดคู่เคียงกันไปกับความรับผิดชอบ ปรากฏออกมาค่อนข้างชัดเจน  สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคน ถูกนำเสนอสาระเรื่องราวในข้อสงสัยของความเป็นคนและการมีชีวิตที่ดีด้วยตัวอย่างบทบาทของชีวิตที่แสดงโดยตัวละครหลากมิติ ทั้งที่เป็นความสมจริงและทั้งที่เป็นความเหนือจริง...  บทบาทต่างๆเหมือนถูกผูกโยงตั้งเป็นคำถามและอธิบายนัยความหมายออกมาผ่านการแสดงของชีวิต...ผ่านแง่มุมแห่งความเป็นไปของคนคนหนึ่ง ตลอดจนอาณาจักรแวดล้อมรอบข้างความสมบูรณ์แห่งการอธิบายเรื่องราวให้แจ่มชัด ถูกเน้นย้ำด้วย ‘ข้อคิด...ข้อเขียน’ เชิงบทความที่อธิบายแก่นของสาระอย่างมีรายละเอียด      ในความเป็นนักเขียน บทความต่างๆ ที่ถูกจัดวางให้เป็นเหมือนบทนำของเรื่องสั้นแต่ละเรื่องอย่าง หน้ากาก สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าสัตว์ การฆ่าตัวตายกับการเป็นเจ้าของตัวเอง ฯลฯ สื่อให้เห็นถึงการเป็นนักเขียนของวินทร์ในลักษณะที่เป็นผู้มีจิตใจในการแสวงหาความรู้ใหม่ๆ (Enquiring Mind)  รวมทั้งการมองปัญหาและข้อเท็จจริงที่เกาะเกี่ยวโยงใยเป็นภาพรวม (Holism) ฐานะของวินทร์ ตรงนี้จึงอยู่ในตำแน่งของผู้ใฝ่รู้และแสวงหาความจริงในคุณค่าของมนุษย์...  ตรงประเด็นที่ว่า คุณค่าของมนุษย์นั้นจะต้องขึ้นอยู่กับความสามารถในการเพิ่มพูนความรู้       แต่ถ้าจะมอง ‘รวมเรื่องสั้น’ เล่มนี้ ในสถานะของ ‘วรรณกรรม’ ข้อสงสัยประเด็นแรกที่จะต้องเป็นคำถามก็คือจำเป็นด้วยหรือที่นักเขียนจะต้องอธิบายเรื่องราวในเนื้อหาสาระที่ตนเขียนต่อผู้อ่านอย่างหมดเปลือกเช่นนั้น...  การเขียนบทความอธิบายความคิด โดยมีตัวอย่างเป็นภาพแสดงในรูปลักษณ์ของเรื่องสั้น อาจทำให้ผู้อ่านมองเห็นภาพได้กระจ่างชัดก็จริง แต่เมื่อแยกส่วนทั้งสองออกจากกัน ... ภาพโดยรวมทั้งหมดกลับถูกกระจัดกระจาย  ในบทตอนทั้ง 17 บทตอน ความสมดุลระหว่างส่วนทั้งสองส่วน อาจผสมผสานกันได้ดีบ้างอย่าง... สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าสัตว์ กับ หมากลางถนน หรือ ความรุนแรงกับบาป กับ เพชฌฆาต  แต่โดยส่วนใหญ่... ผมกลับมีข้อประจักษ์ว่า ... เรื่องสั้นอย่าง ...  เช็งเม้ง  คำสารภาพของช้างเท้าหลัง  ตุ๊กตา  หรือ โลกสามใบของ ราษฎร์ เอกเทศ  ไม่จำเป็นต้องมีบทกล่าวนำเพราะมีความที่สมบูรณ์เป็นคำอธิบายที่ชัดเจนอยู่ในตัวของมันแล้ว  เช่นเดียวกับบทความเช่น การฆ่าตัวตายกับการเป็นเจ้าของตัวเอง ถ้าผมสามารถเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้อีกครั้งหนึ่ง หรือภาพแสดงเป็นตัวอย่างใดใด เพราะความคิดตรงนั้นก็ชัดเจนและมีพลังอยู่แล้ว  อย่างไรก็ดี... แม้ผมจะตระหนักว่านี่คือผลงานในเชิงทดลองด้านวรรณกรรมที่ล้ำสมัย... เป็นนวัตกรรมใหม่ที่มองเห็นความตั้งใจของผู้เขียน ที่จะแสดงความรู้ในมิติต่างๆเพื่ออธิบายข้อสงสัยในความเป็นคนไม่ว่าจะเป็นความรู้ทางเทคนิค (Technical Knowledge) อันหมายถึงความรู้เฉพาะด้านเฉพาะอย่าง (Specialization) รวมทั้งความรู้เชิงกลยุทธ์ (Strategic knowledge) ซึ่งหมายถึงการผสมผสานความรู้หลายสาขา เข้าด้วยกันและมีความสัมพันธ์ต่อกัน  แต่ถึงกระนั้น ผมก็ยังมีความคิดเห็นว่า “วรรณกรรมน่าจะสามารถอธิบายข้อเท็จจริงและเนื้อแท้แห่งสาระด้วยตัวของมันเองได้” การรวมกันในลักษณะเช่นนี้เป็นผลดีต่อความเป็น ‘หนังสือเล่มหนึ่ง’ ที่มีข้อมูลแห่งการรับรู้ในข้อสงสัยที่ไม่รู้ผ่านการตีความและอธิบายความที่สมบูรณ์ แต่กับการเสพหนังสือเล่มนี้ในมิติของ ‘วรรณกรรม’ ผู้อ่านแทบไม่ต้องใช้ภูมิรู้หรือความเข้าใจส่วนตนจินตนาการกับประเด็นความคิดอันเป็นข้อสงสัยต่างๆเลย ทุกบทตอนเหมือนมี ‘คู่มือ’ ประกอบการทำความเข้าใจไว้เสร็จสรรพ ซึ่งตรงนี้นี่เองที่ทำให้ สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคน ตกอยู่ในสภาพของการเป็นหนังสือที่ดี แต่เป็นวรรณกรรมที่ 'ขาดเสน่ห์ด้านการรับรู้' ต่อผู้อ่านไปอย่างน่าเสียดายยิ่ง      แท้จริง... คนคือสิ่งที่มีความคิด (Thinking being) ...เหตุนี้ การเข้าถึงเนื้อในของความเป็นจริงทั้งหมด...จึงน่าจะปล่อยให้ความคิดของคนทุกคนได้มีใจที่จะค้นหาความรู้ใหม่ๆ โยงใยเป็นภาพรวมด้วยตัวของเขาเองจะดีกว่า
    อ่านต่อ >
  • บันทึกลับไฮโซ Quick View

    285.00

    256.50 บาท

    หนังสือเล่มนี้เป็นบทเริ่มต้นของ แครี่ แบรดชอว์ อ่านแล้วจะทำให้รู้ว่าก่อนจะมาเป็น แครี่ แบรดชอร์ ไฮโซสุดเดิ้น  วิถีชีวิตของเธอก็เหมือนวัยรุ่นทั่วๆไป มีเรื่องที่ต้องตัดสินใจ และค้นหาสิ่งที่ตัวเองเป็น ได้รู้ภูมิหลังของครอบครัว แครี่ว่าเป็นมาอย่างไร แล้วหนังสือเล่มนี้ก็เป็นจุดเริ่มของการพบกันของเพื่อนสาวใน Sex and the City และจะพบว่ามิตรภาพของพวกไม่มีวันลบเลือน ... สำนวนอ่านสนุก คนรักแครี่ แบรดชอว์ หรือแฟนแคนเดซ บุชเนลล์ ห้ามพลาด !
    อ่านต่อ >
  • คดีเจ็ดแพะ Quick View

    195.00

    175.50 บาท

    เพิ่งอ่าน"พุ่มรัก พานสิงห์ : คดีเจ็ดแพะ" จบเมื่อคืน สนุกตื่นเต้นมากครับ แถมยังขำจนเผลอหัวเราะดังๆ ไปหลายที และที่สำคัญ ข้อมูลยังแน่นเปรี๊ยะเช่นเคยนะครับ จำได้ว่าเคยให้ความเห็นเกี่ยวกับตัวละคร "เฉ เมืองดอน" ไว้ในที่นี่เมื่อ 2 ปีก่อนว่า ลักษณะของเฉเหมือนกับคนที่เป็น savant มากกว่า autistic ครั้งนี้คุณวินทร์ก็ช่วยอธิบายเรื่อง savant ไว้ในเล่มนี้อย่างละเอียดเลยครับ ขอบคุณมากนะครับ ในคดีของพุ่มรักครั้งนี้มีประเด็นที่เกี่ยวกับทางการแพทย์เยอะมากนะครับ และขอชมว่าคุณวินทร์ทำได้ดีมากในการเสาะหาค้นคว้าข้อมูลเหล่านี้ ทั้งประเด็นเรื่อง savant เรื่องการขโมยไต เรื่องทางนิติวิทยาศาสตร์  และที่สำคัญคือเรื่องการทำแท้ง (ซึ่งอันนี้ยังเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันมากทางการแพทย์ เพราะมันไม่ได้มีอะไรถูกผิดชัดๆ เป็นดำกับขาว อย่างที่เป็นข่าวทางหน้าหนังสือพิมพ์เมื่อเร็วๆนี้เขานำเสนอกันหรอกครับ มันขึ้นกับว่าเรามองที่มุมไหนมากกว่า อย่างที่ตัวละครหมอปารเมศเค้าบอกไว้นี่ก็น่าคิดนะครับ) หรือแม้แต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ดูอาจจะไม่ค่อยสำคัญ เช่น เรื่องยา Ciprofloxacin (500 mg), เรื่องความสัมพันธ์ของตับอักเสบกับมะเร็งตับ, เรื่องลายมือแสนหวัดของหมอ, เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างหมอกับพยาบาล, เรื่องมาตรฐานความปลอดภัยของคลินิก ฯลฯ คือถ้าอ่านผ่านๆ มันก็อาจดูเหมือนไม่มีอะไรมาก แต่จริงๆ แล้วคุณวินทร์คงต้องค้นคว้าข้อมูลเหล่านี้มาเยอะมาก และคงได้คุยกับหมอหลายๆ ท่านถึงได้นำเสนอเรื่องราวเหล่านี้ได้อย่างถูกต้องแม่นยำ ขอชื่นชมมากๆครับป.ล. เรื่อง savant ถ้าใครสนใจ ผมแนะนำให้ลองอ่านหนังสือ "โลกจิต" ของคุณแทนไท ประเสริฐกุล ซึ่งเป็นหนังสือแนววิทยาศาสตร์ที่คนทั่วไปก็อ่านได้ เข้าใจง่าย แถมยังตลกขำขันมากกก และลองดูตัวอย่างคนที่เป็น savant ใน youtube ดูนะครับ พิมพ์คำว่า savant ลงไป ดูแล้วจะรู้สึกทึ่งกับความมหัศจรรย์ของคนเหล่านี้
    อ่านต่อ >
  • สิ่งที่ค้นพบระหว่างนั่งเฉยเฉย (อุนนุนหมายเลข 1) Quick View

    155.00

    139.50 บาท

    "อุนนุนหมายเลข 1 สิ่งที่ค้นพบระหว่างนั่งเฉยเฉย" เขียนโดยพี่เอ๋ นิ้วกลม อ่านแล้วรู้สึกดี มีข้อคิดดีๆ มากมาย มีทั้งการมองโลกอย่างสนุกสนาน โรแมนติค และอีกหลากหลายอารมณ์ :)ฺBookworm by fan page Inging 'kkmonchnok
    อ่านต่อ >
  • นายรอบรู้ เชียงใหม่ Quick View

    180.00

    162.00 บาท

    หนังสือท่องเที่ยวของนายรอบรู้ เป็นหนังสือที่ผมชอบอ่านในเวลาว่างครับ เริ่มค่อยซื้อสะสมตั้งแต่สมัยเรียนปี 1 เลยครับ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นหนังสือท่องเที่ยวจังหวัดภาคเหนือ เพราะสามารถเดินทางไปได้ง่ายและสะดวก ค่าใช้จ่ายไม่มากเท่าไปภาคอื่นๆ ไม่ไกลมาก และก็เป็นคนชอบธรรมชาติ ป่าเขา แม่น้ำ ทุ่งหญ้า ทุ่งนาครับ รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวทางศิลปวัฒนธรรม พวกวัดต่างๆ ในภาคเหนือ ส่วนทะเลก็ชอบเหมือนกันครับ แต่สถานที่เหล่านี้อยู่ไกลจากบ้าน ต้องเสียค่าเดินทาง ค่าที่พักเยอะ เวลาที่ไม่มีอะไรทำ เบื่อเซ็ง นอนไม่หลับ ก็จะเอามาอ่านครับ ก็เพลินดีครับ เพราะแต่ละเล่ม มีรูปภาพประกอบมากมาย และไหนๆ ซื้อมาได้เป็นกองเท่านี้ ก็ควรใช้ให้เป็นประโยชน์ โดยเริ่มเดินทางศึกษาท่องเที่ยวธรรมชาติ เดินป่าและไปเที่ยววัดต่างๆ ที่สวยงามในภาคเหนือ ก็จะถ่ายภาพสวยๆ งามๆ รวมถึงเอาตัวเองเข้าไปกับ background ด้วย มาลงใน facebook เป็นผลงานของตัวเอง เป็นรางวัลชีวิตให้ตัวเอง และเวลาเบื่อเซ็ง หนังสือเหล่านี้ช่วยได้ครับ เพราะเป็นคนชอบอ่าน ศึกษาเรื่องการท่องเที่ยวอยู่แล้ว ทั้งทางด้านวัฒนธรรม ทางเชิงนิเวศ สิ่งแวดล้อม เป็นต้น และได้ไปเที่ยวสถานที่จริงๆ บ้าง ตามที่มีในหนังสือในแต่ละจังหวัด ส่วนใหญ่เป็นจังหวัดอยู่ใกล้ๆ เชียงใหม่ครับ ก็ถือว่าได้ไปเที่ยวมาสนุกสนาน มีที่สวยงาม และเป็นการชาร์ตแบตชีวิตของตัวเองให้ออกสู่โลกกว้างมากขึ้นครับ นี่ก็คือความสุขในชีวิตอย่างนึงที่ได้ทำครับฺBookworm by fan page Pitiphat Mata
    อ่านต่อ >
  • ความสุขไม่มีเสียง Quick View

    175.00

    123.00 บาท

    'ความสุข ไม่มีเสียง' เป็นเรื่องจริงของนักเล่านิทานคนหนึ่งที่เสียงของเขาหายไปเพราะโรคร้าย เขาเล่าเรื่องของเขาสลับไปกับการเล่านิทานหลายๆเรื่อง บางครั้งก็ซ้อนทับกันจนชวนให้คิดว่าบางทีชีวิตคนเราก็ไม่ต่างจากเรื่องราวในนิทานเท่าไรนัก อย่างที่เขาบอกว่า...นิทานอาจไม่ใช่เรื่องจริง แต่ในนิทานมีความจริง...อ่านแล้วชอบมาก ได้ข้อคิดสะกิดใจเป็นระยะๆ...เหตุผลที่หยิบเล่มนี้มาอ่านเพราะอยากรู้ว่าเมื่อนักเล่านิทานคนหนึ่งไม่มีเสียง เขาจะทำอย่างไร? และเมื่ออ่านจบก็พบว่า แม้ในความบกพร่องก็พร้อมสุขได้ ด้วยความเข้าใจและยอมรับ มิใช่ยอมจำนน^^ฺBookworm by fan page Nipaporn Jatupornphoka
    อ่านต่อ >
  • ปริศนาสมบัติอัจฉริยะ 1 ตอนผจญค่ายกลกระดูก Quick View

    189.00

    170.10 บาท

    เป็นวรรณกรรมที่เจ๋งมากๆๆ เรื่องราวการผจญภัยตามล่าหาปริศนาไปทั่วทุกมุมโลกของสองพี่น้อง เอมี่และแดน คาฮิลล์อยากให้ลองติดตามกันดูนะคะ สนุกมากค่ะ ^^ ตอนนี้มีถึงเล่ม 9 แล้วจร้า ใกล้ถึงจุดจบของการตามล่าแล้ว "จงระวัง.....มาดริกัล" ฺBookworm by K.Thanainan Siriruangwattana
    อ่านต่อ >
  • รุ่งอรุโณทัย Breaking Dawn ล.1 (ปกใหม่) Quick View

    280.00

    252.00 บาท

    เป็นหนังสือที่ใช้ภาษาได้สวยมากค่ะ คนแปลแปลเก่งมาก นิยายเขียนได้ลื่นไหล น่าติดตาม อ่านแล้วไม่อยากวาง ถ้าชอบนิยายรักโรแมนติก แนะนำว่าเรื่องนี้อ่านจบแล้ว ความรู้สึกยังไม่จบแน่นอนค่ะBookworm by K.Phuriphat Kammoong
    อ่านต่อ >
  • เดอะท็อปซีเคร็ต 2 ตอน ความลับสู่ความสำเร็จ Quick View

    235.00

    211.50 บาท

    เดอะ ท็อป ซีเคร็ต II จะพูดเกี่ยวกับการใช้งานของสมอง ซีกซ้าย และซีกขวา บทความด้านในผู้เขียนได้ทำการวิเคราะห์ความสำคัญ ของสมองทั้งสองซีก และจำทำให้คุณรู้ว่าตัวคุณเองถนัดใช้สมองข้างไหน โดยมีการเผยเคล็ดลับสู่ความสำเร็จ และยังบอกอีกว่า "คนที่สามารถใช้สมองซีกขวาได้มากกว่าคนอื่นจะประสบความสำเร็จในชีวิตสูงกว่า" ... แล้วคุณล่ะ ถนัดใช้สมองซีกไหน ?
    อ่านต่อ >
  • แรกรัตติกาล Twilight (ปกใหม่) Quick View

    285.00

    256.50 บาท

    หนังสือชุดแวมไพร์ ทไวไลท์ ววรณกรรมรักอมตะระหว่างมนุษย์กับแวมไพร์ที่โด่งดังไปทั่วโลกBookworm by fan page MoDtanoy HiPpy
    อ่านต่อ >
  • Harry Potter And The Deathly Hollows (Book 7/ Hardcover U.K. Edition)(ภาษาอังกฤษ) Quick View

    1,195.00

    1,075.50 บาท

    หนังสือชุดแฮร์รี่ พอตเตอร์ วรรณกรรมอมตะที่ทำให้เด็กทั่วโลกรักการอ่าน Bookworm by fan page MoDtanoy HiPpy
    อ่านต่อ >
  • ดูจิตหนึ่งพรรษา Quick View

    170.00

    119.00 บาท

    หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่เหมาะสำหรับคนที่กำลังจะเริ่มต้นศึกษาหาความรู้ในเรื่องของการปฏิบัติธรรม เนื่องจากเนื้อหาภายในเล่มได้ถูกเขียนออกมาในรูปของบันทึก อ่านแล้วน่าสนใจไม่น่าเบื่อและเป็นการปฏิบัติที่ไม่มีกฏตายตัว เมื่อได้อ่านจะได้รู้ถึงสภาวะของการปฏิบัติธรรม เหตุการณ์รอบตัว ธรรมเทศนา ตามที่ผู้เขียนได้บันทึกไว้ อ่านแล้วอยากซื้อให้ผู้อื่นเป็นของขวัญไว้ฝึกปฏิบัติบ้าง ...
    อ่านต่อ >
  • รวยรินกลิ่นชา (ฉ.ปรับปรุง) Quick View

    235.00

    211.50 บาท

    อ่านเล่มนี้แล้วจะทำให้คุณรู้ความเป็นมาของชา วัฒนธรรมชา ชากับประเพณีแต่งงาน และอื่นๆอีกมากมายเกี่ยวกับชา ที่น่าสนใจ ทำความรู้จักกับชาที่ไม่ใช่เครื่องดื่มของคนร่ำรวยมีเงินทอง แต่มารู้จักชาที่เป็นเครื่องดื่มของคนธรรมดาสามัญทั่วไป หนังสือเล่มนี้ให้ความสุข และสงบ อย่าลืม...จิบชาไปด้วยกัน 
    อ่านต่อ >
loading