เมื่อน้องอินทร์ได้มีโอกาสหยิบหนังสือ Dear You ถึงคุณ, ด้วยความคิดถึง ขึ้นมาอ่าน ก็เกิดคำถามว่าครั้งสุดท้ายที่เขียนจดหมายมันเมื่อไรกันนะ ไม่ต้องพูดถึงได้รับจดหมายหรอก นานมากพอที่จะจำไม่ได้ ว่ากี่ปีแล้ว ดีไม่ดี อาจจะถึง 10 ปีด้วยมั้งการได้ลองอ่านหนังสือ Dear You ถึงคุณ, ด้วยความคิดถึง ในแต่ละบท มีการโต้ตอบ มีการทิ้งคำถามให้ หรือเสนอมุมมอง ที่ทำให้ตัวเราได้ทบทวน ขบคิด ไปกับสถานการณ์นั้นๆ ก็เพลินดีนะลองหยิบขึ้นมาอ่านดูสิ!ว่าแต่ว่าคุณเขียนจดหมายครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ครับ

หลังจากที่นักเขียน รอมแพง ประกาศเขียน บุพเพฯ ภาค 2 โดยจะใช้ชื่อนิยายว่า พรหมลิขิต น้องอินทร์ก็เฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ ผลงานเล่มนี้ นักอ่านยังคงเจอตัวละครจากเรื่อง บุพเพสันนิวาส รวมถึงการเฉลยเรื่องราวความเป็นมาของคัมภีร์กฤษณะกาลี  และครั้งนี้ พุดตานตัวละครยุคปัจจุบันที่จะหลุดเข้าไปในอดีต ทั้งตัว และได้พบเจอกับเรื่องราวในยุคนั้นโดยที่เธอไม่ความรู้ทางประวัติศาสตร์ มีเพียงความรู้ด้าน การจัดสวน การปลูกต้นไม้ และความรักสวยรักงาม ที่พกติดตัวไปถ้านักอ่านอยากรู้เรื่องราวความเป็นไปของนิยาย พรหมลิขิต เชิญเลือกซื้อเลือกอ่านก่อนใครได้เลยครับ

INTO THE MAGIC SHOP รีวิว หรือชื่อหนังสือ เราทุกคนล้วนมีร้านเวทมนตร์อยู่ในใจ เป็นหนังสือที่- เป็นแรงบันดาลให้วง BTS แต่งเพลงชื่อ Magic Shop- หนังสือที่องค์ทะไลลามะยกย่อง- เป็นหนังสือขายดี และถูกแปลมาแล้ว 27 ภาษาทำไมหนังสือเล่มเล็ก ๆ เล่มนี้ ดูจะมีพลังมากขนาดนั้น แต่เมื่อได้หยิบ หนังสือ INTO THE MAGIC SHOP เราทุกคนล้วนมีร้านเวทมนตร์อยู่ในใจ ขึ้นมาอ่านก็จะพบว่าคำตอบหนังสือเล่มนี้สร้างแรงบันดาลใจ ให้กำลังใจ ให้เคล็ดลับ เมื่อสมองและหัวใจสอดประสาน ปาฏิหาริย์ใดก็เป็นจริงได้

ผู้เขียนหนังสือ Inbound Marketing การตลาดแบบแรงดึงดูด คือทีมที่ปรึกษาด้านการตลาดและเจ้าของเพจ Content Shifu ที่มีชื่อเสียงด้านการทำ Digital Marketing และ Online contentหนังสือ Inbound Marketing กล่าวถึงเนื้อการตลาดแบบแรงดึงดูดรวบรวมหลักการทำการตลาดทั้ง Online และ Offline เหมาะกับนักเรียนด้านการตลาดและนักการตลาดทุกเพศทุกวัย

เคยมีความรู้สึก คิดในใจกันแบบนี้บ้างไหมครับ “ทำไมเราถึงไม่สมหวัง?”“ทำไมความรัก ชีวิตคู่ มันไม่มีความสุข? “ทำไมเค้าถึงเปลี่ยนไป?”.ก่อนที่จะคิดได้ หรือหาคำตอบนั้น เราอาจจะตั้งคำถามผิดแต่แรกก็ได้....เพราะชีวิตมีทั้งสมหวังและผิดหวังเพราะความรักมันต้องมีทั้งทุกข์และสุขเพราะคนเราเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา.หนังสือ “กฎข้อนึงของความสัมพันธ์” เล่มนี้กำลังบอกให้เราทราบถึง “สัจนิรันด์” ที่ไม่อาจปฏิเสธได้นั่นคือ “สรรพสิ่งย่อมเปลี่ยนแปลง ไปตามกาลเวลาอยู่เสมอ”และความทุกข์ก็มักจะเกิดจาก เหตุแห่งการเปลี่ยนแปลงนั้น.ขนาดตัวเราเอง ตั้งแต่เด็กจนโต ยังมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดความสัมพันธ์ก็เช่นกัน เราไปมีความคาดหวัง ว่าคนรัก เพื่อน หรือครอบครัว ต้องเป็นแบบนั้น ต้องเป็นแบบนี้พอเกิดการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะทางกายหรือทางใจ เราจึงผิดหวัง เศร้าโศก เสียใจและเป็นทุกข์.อ่านถึงตรงนี้บางคนอาจเข้าใจผิดไปตีความว่า ให้ปล่อยวางแบบไม่คิดอะไรกับชีวิตเลยซึ่งจริงๆ แล้วไม่ใช่เช่นนั้น เพราะการยอมรับความจริงดังกล่าวเป็นการเรียกสติ ในวันแย่ๆของเราที่เราเจอ “การเปลี่ยนแปลง แบบไม่คาดคิด”สุดท้ายเราก็ต้องอยู่ให้ได้ ต้องเข้าใจสัจธรรมนั่นเอง.ในโลกใบนี้ มีหลากหลายความสัมพันธ์รอบตัวเราก็จริงแต่อย่าละเลย หรือลืมความสัมพันธ์กับตัวเองเพราะสิ่งสำคัญที่สุด คือ รักและให้กำลังใจตัวเองเข้าไว้ .มีอีกข้อคิดหนึ่งในหนังสือเล่มนี้ ที่ค่อนข้างสะดุดตา(สะดุดใจผู้เขียนด้วย) กล่าวแล้วสรุปความได้ว่า .บางคนไม่อยากมีความรักครั้งใหม่ โดยยังกลัวจากความผิดหวังในอดีต แต่ความจริงแล้ว หากเรากล้าคว้าโอกาสกล้าเสี่ยงกับความรักครั้งใหม่ เสี่ยงผิดหวังอีกสักหลายๆ ครั้ง จนมีครั้งหนึ่งที่เราเจอคนที่ดีมากพอ ที่จะทำให้เรามีความสุขไปตลอดชีวิต มันก็คุ้มค่ามิใช่หรือ?.จงอย่ากลัวที่จะผิดหวัง ในการพบเจอความสัมพันธ์ใหม่ๆ..

ตอนแรกก็คิดว่าเป็นหนังสือแปลจะเข้ากับบริบทคนไทยไม่ได้ แต่เห็นกระแสที่แรงมากๆ เลยตัดสินใจซื้อดู ปรากฏว่าชอบมากครับ วิธีการและเนื้อหาสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับสังคมเราได้ตรงๆ เลยล่ะเพิ่งรู้ว่าคำว่า เฮงซวย หรือ Asshole มันเป็นคำสากลที่หมายถึงกลุ่มคนนิสัยลักษณะเดียวกัน ยังไงเราก็ต้องเจอเข้าสักวัน ไม่เราก็เขานี่แหละที่จะเป็นคนเฮงซวยในสายตาคนอื่น

ถ้าให้จัดอันดับความสนุกของจาก 3 เล่มในชุดนี้ น้องอินทร์ว่า ลายเหมราชเล่มนี้ สนุกที่สุดเลยนะครับ เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในสมัยพระเจ้าปราสาททอง ถ้านักอ่านยังจำกันได้ เรื่องนี้จะมีแม่แสร์ (คุณหญิงแสร์ จากลายกินรี) เจ้าจอมสารภี และหมอโหมด ที่เข้ามาสืบเรื่องราวการตายของเจ้าจอมดอกแก้ว ที่เกี่ยวข้องกับคนรักของแม่แสร์ที่ถูกปรักปรำ จนจะโดนโทษประหารชีวิต ทั้งหมดจะช่วยให้หลวงไชยราชกิจ พ้นจากคำกล่าวหาได้หรือไม่ ลุ้นกันสนุกเลยละครับ

ขอเอาเล่มนี้ขึ้นหิ้งไปอีกเรื่อง !! จะเริ่มเล่ายังไงดี เพราะไทม์ไลน์เรื่องเอาจริงๆ คนหัวช้าแบบเราน่าจะต้องอ่านสักสองรอบปาฏิหาริย์ร้านชำของคุณนามิยะ..ความน่าสนใจของเล่มนี้ คือตอนนี้มันขึ้นอันดับหนึ่งที่หน้าร้านนายอินทร์ และเป็นผลงานของ ฮิงาชิโนะ เคโงะ นักเขียนแนวสืบสวน แต่เล่มนี้มันเป็นแนวอุ่นๆ ดราม่าๆ มีเรื่องราวเกี่ยวกับกาลเวลาเข้ามาพัวพัน เอาง่ายๆ จุดเริ่มต้นคือ มีหัวขโมย 3 คน หลังจากขโมยของก็หาที่กบดานเพื่อรอจังหวะจะหนี โดยเข้าไปหลบที่ร้านชำนามิยะ ซึ่งปัจจุบันเป็นที่รกร้างห่างไกลผู้คนร้านนี้ในอดีตนอกเหนือจากร้านชำ คือร้านรับปรึกษาปัญหากลุ้มใจ โดยคนที่มีปัญหาจะเขียนจดหมายมาหย่อนไว้ที่ร้าน จากนั้นคุณตาเจ้าของร้านจะหยิบคำถามกลุ้มใจของทุกคนมาเขียนตอบกลับ โดยจะหย่อนคำตอบไว้ถังใส่นมหลังร้านปาฏิหาริย์ร้านชำของคุณนามิยะนั่น คือร้านนี้สามารถเชื่อมโยงปัจจุบันกับอดีตได้ โดยวันที่หัวขโมย 3 คน แอบเข้ามาคือวันครบรอบวันตาย 33 ปีของคุณตาเจ้าของร้าน และปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น เพราะหัวขโมยทั้ง 3 ได้รับจดหมายจากคนในอดีตที่เขียนส่งเข้ามายิ่งกว่านั้น พวกขโมยยังตอบคำถามเหล่านั้นกลับไปอีกด้วย และคำตอบของพวกเขา ส่งผลเปลี่ยนแปลงชีวิตของคนในอดีต เหนือสิ่งอื่นใด ขณะที่ขโมยเขียนตอบคำถาม สิ่งเหล่านี้ได้เปลี่ยนแปลงตัวของพวกเขาไปทีละนิด อย่างที่คนอ่านจะแอบสังเกตได้ เนื้อเรื่องเล่าสลับไปมา ระหว่างอดีตเมื่อ 40 ปีที่แล้วกับปัจจุบัน นึกสภาพคนจากสองยุคสมัยคุยกัน ความเหลื่อมล้ำทางเทคโนโลยี การเมือง สังคม และการที่ได้เห็นผู้คนทั้งในจากอดีตและปัจจุบันเชื่อมโยงเข้าหากัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน จับมือกับผ่านเรื่องราวในชีวิตไปด้วยกัน

สมการรอคอยมากๆ กับออริจิน ธีมและประเด็นของเรื่องเล่นใหญ่จนไม่ทำให้เราผิดหวังเลยทีเดียวคำถามที่ว่า ไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกัน นี่มันคือปัญหาโลกแตกชัดๆ เหมือนที่โรเบิร์ต แลงดอน พยายามจะหาคำตอบที่เพื่อนของตัวเองค้นพบว่า เรามาจากไหน และเรากำลังจะไปที่ไหนสนุกมากครับ สำหรับเล่มนี้ ปกติแล้วงานของแดน บราวน์จะทุ่มไปให้พื้นหลังกับประวัติศาสตร์ที่เป็นงานถนัดในการหยิบมาร้อยเรียงทำเป็นเรื่องขึ้นมา แต่เล่มนี้ผมยกเป็นเป็นส่วนผสมอย่างลงตัวของ ศาสนา ประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สิ่งที่แดน บราวน์มอบให้กับนักอ่านอย่างเรา ไม่ใช่แค่ความสนุกจากการอ่านนะ เพราะพออ่านจบแล้ว ผมก็สงสัยว่าที่เขาเขียนมานี่ มันเป็นเรื่องจริงใช่ไหม 

หนังสืออ่านหนังสือกินกบตัวนั้นซะ จะทำให้เพื่อนๆนักอ่านบริหารเวลาที่มีอยู่จำกัดได้อย่ามีประสิทธิภาพด้วยเทคนิคการจัดการเวลาที่จะช่วยให้สามารถบรรลุเป้าหมายทั้งส่วนตัวและการงานได้ หนังสือกินกบตัวนั้นซะจะได้เน้นย้ำวิธีการจัดลำดับความสำคัญของงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เรามั่นใจว่างานที่ทำอยู่คืองานสำคัญกับเรา และที่สำคัญวิธีการนำเทคนิคที่นำเสนอมาทั้งหมดให้มาปรับใช้จนมันกลายเป็นนิสัยที่ดีไปตลอดชีวิต :) 

?เราเริ่มวิ่งเพราะได้ยินว่า นักกีฬาที่หุ่นดีที่สุดคือนักวิ่ง เริ่มวิ่งมานาน (เริ่มก่อนพี่ตูนจะวิ่งไปบางสะพานอีก) เจอปัญหาในการวิ่งมากมาย เช่น วิ่งได้นิดเดียวแล้วรู้สึกเหนื่อยมากกกกกก วิ่งแล้วคันขา วิ่งแล้วเจ็บหัวเข่า วิ่งแล้วขาใหญ่ น่องโต วิ่งแล้วเป็นนู่นนี่นั่น กับข้ออ้างอีกมากมาย  จนพาลให้ไม่อยากจะวิ่งอีกแล้ว พอเห็นหนังสือปุ๊บ ต้องหยิบขึ้นมาอ่านปั๊บ เราไม่ได้อยากจะผอม เราแค่อยากจะหุ่นเฟริ์ม และ อยากจะวิ่งให้ถูกวิธี พอได้มาอ่านหนังสือเล่มนี้ แล้วเข้าใจ เริ่มฝึกร่างกายตามคำแนะนำในหนังสือ กลับมาวิ่งใหม่ ตามตารางที่มีไว้ให้ ทำให้มีกำลังใจในการวิ่งขึ้นอีกมากเลย ^_^

อ่านสนุก ตื่นเต้น เรื่องราวตัดสลับไปมาระหว่างคดีฆาตกรรมสยองขวัญ ที่ นักสตัฟสัตว์ โดนจับห้อยหัวและกรีดท้องเอาลำไส้ออกมา กับเหตุการณ์ในบอสวานา เรื่องราวทั้งสองจะเชื่อมโยงกันยังไง ก็ต้องตามอ่านในตอนท้ายของเรื่องกันเอง แต่บอกได้เลยว่าผู้แต่ง บอกเล่าเรื่องราวได้อย่างตื่นเต้น สยองขวัญ (ในการบรรยายภาพเหตุการณ์ฆาตกรรมในแต่ละครั้ง) และชวนให้น่าติดตามในทุกๆ หน้า อ่านแล้วไม่มีเบื่อเลย

?แม่หญิงพุดซ้อน หมอหญิงที่สืบต่องานจากหมอชื่อดังแห่งกรุงศรีฯ ต้องเข้ามาเกี่ยวข้องกับการตายของกัปตันฌอง กัปตันเรือชาวฝรั่งเศส ที่ถูกฆาตกรรม ซึ่งตอนตายกัปตัน ยังนุ่งผ้าลายอย่าง เป็นลวดลายกินรี ซึ่งเป็นผ้าสำหรับใช้ในวังเท่านั้น ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายที่แม่หญิงพุดซ้อนจะต้องค้นหาความจริง ให้ชาวอยุธยา พ้นมลทินจากเรื่องนี้ เพื่อที่ฝรั่งเศสจะไม่ยกมาเป็นข้ออ้างในการวิวาทยึดดินแดนของไทย

เรื่องราวของยตสึฮะจัง น้องสาวแท้ ๆ ของมิตสึฮะ หนึ่งในมิโกะประจำศาลเจ้ามิยามิสุอีกคน ซึ่งนอกจากจะเป็นน้องสาวจอมจู้จี้ที่เราคุ้นเคยกันดีจากภาพยนตร์นั้น ภายในนิยายบทนี้ก็จะได้เห็นมุมมองของน้องสาวที่มีต่อมิตสึฮะพี่สาวของเธอที่เปลี่ยนไปในบางครั้ง จนเธอรู้สึกกลัวรวมถึงเป็นห่วงขึ้นมา และด้วยทั้งความรักของยตสึฮะที่มีต่อพี่สาวที่ทำให้เราต้องอมยิ้มไปทั้งสองได้ไม่ยาก และเราก็จะได้เห็นการสลับร่างของยตสึฮะในตอนนี้ด้วยครับ! ซึ่งจะสลับกับใคร สลับได้อย่างไร ต้องลุ้นกันในเล่มให้ดีล่ะ

เรื่องราวของบรูโน เด็กชายวัย 9 ขวบ ที่ต้องย้ายบ้านจากเบอร์ลิน มาที่ เอาธ์วิท บ้านใหม่ที่เงียบเชียบ ห่างไกลเมือง ทำให้เด็กชายเกิดความเหงา แต่ไม่ไกลจากบ้าน เด็กชายก็สังเกตเห็น "เพื่อนบ้าน" ที่ที่ทุกคนใส่ชุดนอน และหมวกลายทาง มีผู้คนอยู่มากมายที่บ้านรั้วติดกับกับบ้านใหม่ของบรูโน แล้วความสัมพันธ์ระหว่างเด็กชายสองคนที่เกิดวันเดียวกัน ก็เกิดขึ้น เมื่อวันนึง บรูโนเริ่มออกเดินสำรวจรอบๆ บ้าน เนื้อหาของเด็กชายในชุดนอนลายทาง สะท้อนให้เห็นถึงช่วงเวลาแห่งสงคราม จิตใจที่ดีและไร้เดียงสาของเด็กชาย ความเป็นเพื่อนระหว่างเด็กชายสองคนในระยะเวลาไม่นาน อ่านแล้วน้ำตาซึม 

ทำไมต้องอ่านหนังสือกล้าที่จะถูกเกลียด How – to ติดอันดับขายดีชื่อหนังสือ “กล้าที่จะถูกเกลียด” แค่ชื่อก็ทรงพลังและกระตุ้นชวนให้หยิบขึ้นมาพลิกอ่านหนังสือ “กล้าที่จะถูกเกลียด” ขายดีในญี่ปุ่น จีน เกาหลี ไต้หวัน ไทยและอีกหลายประเทศในเอเชีย“กล้าที่จะถูกเกลียด” แปลโดยนักแปลมืออาชีพ ภาษาที่ใช้ อ่านเข้าใจง่าย สอดแทรกอารมณ์ขัน ทำให้เรื่องที่ยากดูน่าสนใจได้อย่างน่าทึ่งคำแนะนำในหนังสือกล้าที่จะถูกเกลียดเล่มนี้ฟังดูย้อนแย้งและขัดกับความรู้สึก แต่เมื่ออ่านจนจบเล่มก็จะรู้สึกคล้อยตามทันที แถมยังนำไปปรับใช้กับชีวิตอย่างได้ผลอีกด้วยหนังสือกล้าที่จะถูกเกลียดแค่ชื่อก็ต้อง “กล้า” แล้วหนังสือกล้าที่จะถูกเกลียด เขียนขึ้นจากหลักการของ อัลเฟรด แอดเลอร์ (Alfed Adler) นักจิตวิทยา ผู้บุกเบิกแนวทางในการศึกษาพฤติกรรมและบุคลิกภาพของมนุษย์ที่เน้นอิทธิพลของสัมพันธภาพระหว่างเพื่อนมนุษย์หรือพฤติกรรมสังคม ผ่านมุมมองของนักปรัชญาชาวญี่ปุ่น คิชิมิ อิชิโร โดยมี โคะกะ ฟุมิทะเกะ นักเขียนหนุ่มเป็นผู้เรียบเรียง จัดทำในรูปแบบการสนทนาถกเถียงกันในเชิงปรัชญา เพื่ออธิบายแนวคิดของ อัลเฟรด แอดเลอร์ ผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็น “บิดาแห่งการพัฒนาตนเอง” ความโดดเด่นของแอดเลอร์ ในฐานะนักจิตวิทยา คือ เขามีความเชื่อว่า อดีตนั้นไม่ได้กำหนดพฤติกรรมต่างๆ ในปัจจุบัน แต่แอดเลอร์เชื่อว่า คนเรานั้นสามารถเลือกที่จะเปลี่ยนแปลงและมีความสุขได้  เพียงแต่มีความ “กล้า” ความทุกข์นั้นเกิดจากความสัมพันธ์ที่เรามีต่อผู้อื่น หากเราสามารถทำให้ความสัมพันธ์กับผู้อื่นราบรื่น โดยไม่ต้องพยายามเติมเต็มความคาดหวังของคนอื่น  เราก็จะสามารถมีความสุขได้มากขึ้นอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองต้องอ่านหนังสือ “กล้าที่จะถูกเกลียด”ใครๆ ก็อยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง อยากพัฒนาตัวเองให้มีทิศทางที่ดีขึ้น และเชื่อว่าหนึ่งในความคิดของคนที่คิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง คือ เราต้องสร้างความสำพันธ์อันดีกับคนอื่น แต่เชื่อไหมว่าความคิดนั้นเป็นความคิดที่ผิด เพราะยิ่งเราทำดีกับคนอื่นมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งหมายความว่าคุณต้อง “ทิ้ง” ชีวิตของตัวเองมากขึ้นเท่านั้น หนังสือกล้าที่จะถูกเกลียดเล่มนี้จะบอกผู้อ่านว่า “คนเราเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ ถ้าเราคิดจะเปลี่ยนกล้าที่จะถูกเกลียด แนวทางการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจหนังสือกล้าที่จะถูกเกลียด หนังสือแปลคุณภาพจากสำนักพิมพ์ วีเลิร์น จะนำเสนอแนวทางพร้อมให้ข้อคิดในการเปลี่ยน พัฒนาตัวเองให้มีทิศทางที่ดีขึ้น นักอ่านสามารถเลือกซื้อหนังสือกล้าที่จะถูกเกลียดและหนังสือพัฒนาตัวเองเล่มอื่นๆ ได้ที่ร้านหนังสือนายอินทร์ทุกสาขา พร้อมเปิดประตูต้อนรับคุณผู้อ่านทุกท่านด้วยความยินดี ให้บริการด้วยความเข้าใจต่อความต้องการของผู้อ่าน ยังให้บริการรับจองหนังสือล่วงหน้า หรือจะเป็นช่องทางการสั่งซื้อหนังสือออนไลน์ผ่านหน้าเว็บไซต์ของนายอินทร์ พร้อมบริการจัดส่งให้ทั่วประเทศ

ผลงานเล่มล่าสุดของ ชุดพระราชนิพนธ์แปล ในสมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดา สยามบรมราชกุมารี

รัสเซียจะเป็นยังไงนะ? หลายครั้งที่ผมคิดอยากจะออกเดินทางไปประเทศต่างๆรอบโลก รัสเซียอาจจะเป็นที่ๆอบอุ่นละมุนละไมเหมือนญี่ปุ่น หรือมีศิลปะมากมายให้เราได้ดื่มด่ำไปกับประวัติศาสตร์ที่สวยงามอย่างอิตาลี่ แต่ไม่แน่ใจว่าเพราะอะไร รัสเซียไม่ได้เดินเข้ามาในความคิดผมเลยสักครั้ง อาจเป็นเพราะไม่เคยได้สัมผัสและคุ้นชินกับภาษา หรือเพราะความรู้สึกลึกๆในใจว่ารัสเซียเป็นประเทศแห่งความเกรี้ยวกราดทางด้านอารมณ์ ทำให้แผนที่หนังสือหรือบันทึกการเดินทางในรัสเซียไม่ได้ถูกหยิบมาวางไว้บนโต๊ะหนังสือของผมสักที และเมื่อถึงเวลาที่ความบังเอิญได้ออกมาทำหน้าที่ของมัน เมื่อมีพี่ๆใจดียื่นหนังสือนี้มาให้ผม ความบังเอิญทำให้ผมกับรัสเซียได้รู้จักกันผ่านหนังสือเล่มนี้ จริงๆผมไม่รู้จักผู้เขียนเป็นการส่วนตัว พี่ย้ง ชัชวาลย์ ผู้เขียนไม่ใช่แค่เล่าเรื่องให้ฟังว่ารัสเซียเป็นอย่างไร แต่พี่ได้ชวนผมให้ร่วมเดินทางไปด้วยกันผ่านตัวอักษร ราวกับว่าผมได้เดินทางกับรถไฟที่เชื่อมระหว่างสองเมืองหลวง ได้เจอกับพนักงานตัวโตบนรถไฟจริงๆ และยังได้รู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งตกแต่งหลากสีบนโดมรูปหัวหอม ทุกสิ่งคือความแปลกที่ถูกปรุงให้ทุกอย่างลงตัว หลังจากอ่านเล่มนี้จบ ผม ผู้เขียน และรัสเซียได้สนิทกันไปเรียบร้อยแล้ว และคงไม่มีคำไหนเหมาะไปกว่าคำว่า so weird ที่อยู่บนปกหนังสือเล่มนี้แล้วล่ะ "วินัยบอกไว้"คุณ ชนะศึก โรจนพิทยากร

รวมรวมจากบทความที่ผู้เขียนเขียนลงใน นิตยสาร Secret ว่าด้วยเรื่องของ หลุมพราง ในแง่มุมต่างๆ เช่น ทำไมทำบุญแล้วชีวิตไม่ดีขึ้นเลย หลุมพรางของการสวดมนต์ มือถือกำลังทำให้ผมโง่ลง เป็นต้น

ทำไมต้อง ลดความอ้วนด้วยการเดิน? เล่มนี้จะเป็นคำตอบให้คุณ ตั้งแต่พื้นฐานของการเดิน ท่าเดินที่ถูกต้อง อาหารการกิน ด้วย โปรแกรมเดินลดความอ้วน 5 กิโล ภายใน 2 เดือน!!! 

พอกเก็ตบุ๊ก ฉ.ครอบครัว ที่รวมเรื่องเล่าประทับใจหลายแง่มุม ทั้งทุกข์ สุข เศร้า และเฮฮา นำทีมเล่าโดย คุณแม่งามทิพย์ เฮียบอย เฮียหน่อง เฮียภัทร์ และ น้องวันใหม่

ไมต้องอ่านหนังสือสมองเศรษฐีหนังสือสมองเศรษฐีบอกถึงวิธีการสร้างความร่ำรวยจากสมองที่ยังไม่มีใครพูดถึงหนังสือสมองเศรษฐีอธิบายถึงวิธีคิดและทัศนคติที่ควรมีเพื่อสร้างความร่ำรวย โดยนอกจากความรวยแล้ว ยังเป็นคนรวยที่มีความสุข หรือนิยามใหม่ของเศรษฐี ว่าต้องเป็นคนที่มีทั้งเงิน และมีทั้งสุขหนังสือสมองเศรษฐีเขียนโดย “ขุนเขา สินธุเสน เขจรบุตร” นักจิตวิทยาและนักพัฒนาสมองรุ่นใหม่ จากคณะจิตวิทยา มหาวิทยาลัยอันดับ 1 Australia National University ประเทศออสเตรเลีย เจ้าของผลงาน Best Sellerหนังสือสมองเศรษฐี เศรษฐีที่ไม่ได้แค่แปลว่า “คนรวย” แต่แปลว่า “ผู้ประเสริฐ”หนังสือสมองเศรษฐี จะพาคุณเปลี่ยนความคิด ชีวิต และจิตใจด้วยเนื้อหา เทคนิคที่แพรวพราว หนังสือสมองเศรษฐียังสอดประสานมุมมองทั้งด้านวิทยาศาสตร์ จิตวิทยา และหลักพุทธศาสตร์ ที่เข้าใจง่ายและใช้จริงในชีวิตประจำวันได้ทันที หนังสือสมองเศรษฐี จะตอกย้ำความมั่งคั่งด้วยนิยามความเข้าใจใหม่ของคำว่า “เศรษฐี” เพื่อให้คุณรวยทรัพย์และสุขอย่างยั่งยืน ไม่ใช่เป็นเศรษฐีชั่ววูบชั่วคราวแบบสามล้อถูกหวย แต่เป็นเศรษฐีแบบผู้ประเสริฐที่รู้จักคุณค่าที่แท้จริงของเงิน ขุนเขาเข้าใจความต้องการคนที่อยากเป็นเศรษฐี อยากรวย ทุกคนมีแต่ความ “อยาก” แต่ไม่รู้ถึงวิธีการที่จะไปถึงจุดหมาย ขุนเขาจึงได้รวบรวมความรู้ที่สะสมมาและเขียนวิธีการสู่การเป็นเศรษฐีสู่หนังสือสมองเศรษฐีขุนเขา นักจิตวิทยาพัฒนาสมอง เจ้าของหนังสือสมองเศรษฐีและหนังสือ Best Seller อีกหลายเล่มขุนเขา สินธุเสน เขจรบุตร ชายหนุ่มคนนี้เป็นนักจิตวิทยาพัฒนาสมอง ที่มีความรู้และประสบการณ์การให้ความรู้ และคำแนะนำแก่ผู้คน จนประสบผลสำเร็จมามากมาย ผลงานของคุณขุนเขามีทั้งการเป็นนักพูด วิทยากร และการเป็นนักเขียน นอกจากหนังสือสมองเศรษฐี แล้วยังมีหนังสือที่เป็นผลงานอีกมากมายหลายเล่ม อาทิ กรรมตามสมอง,รู้มากไปทำไม...รู้ "ใจ"ก่อนดีกว่า,ขุนเขาเกาสมอง,สมองทองคำ, สมองสงสัยใจตอบ เป็นต้น ซึ่งแต่ละเล่ม ล้วนมีเนื้อหาที่ดี มีคุณภาพ อ่านง่าย และตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี ขุนเขา สินธุเสน เขจรบุตรมีความตั้งใจอย่างมาก ในการมอบความสุขหรือชี้ทางสว่างให้แก่ใครก็ตามที่ชีวิตกำลังมืดมน หรือกำลังสับสนพัฒนาสมองและจิตใจ ก้าวผ่านความทุกข์ไปพร้อม ๆ กับหนังสือสมองเศรษฐี แลหนังสือประเภทอื่นๆนอกจากจะมีหนังสือจากขุนเขา สินธุเสน เขจรบุตร แล้วร้านหนังสือนายอินทร์ยังมีหนังสือดี มีคุณภาพ ในหมวดหมู่จิตวิทยา จากหลายหลายนักเขียนและสำนักพิมพ์ พร้อมให้บริการนักอ่านทุกท่าน นอกจากสาขานายอินทร์เท่านั้น ยังสามารถสั่งซื้อผ่านเว็บไซต์ของนายอินทร์ได้เช่นกัน รวมถึงหนังสือประเภทอื่น ๆร้านนายอินทร์ยังมีหนังสือแบบ E-Books ที่ครอบคลุมหลากหลายประเภทหนังสือไว้ให้นักอ่านได้เลือกหาเช่นกัน ทำให้สามารถเลือกซื้อ ดาวน์โหลด และพร้อมอ่านได้ทันที โดยได้เนื้อหาสาระครบเหมือนหนังสือปกติ

เป็นวรรณกรรมที่เดินเรื่องอย่างรวดเร็ว เต็มไปด้วยความฉับไวที่คาดไม่ถึง สิ่งที่กระตุ้นอารมณ์ผู้อ่าน และความระทึก ต้องใช้ความบ้าบิ่นสูงมากสำหรับการเขียนหัวข้อเหล่านี้ แต่ก็ใช้ทักษะขั้นสูงเช่นกันจึงจะเขียนออกมาให้คนเชื่อได้ และผู้เขียนก็ทำให้มันดูง่ายเหลือเกิน ซึ่งนั่นแหละคือจุดที่ทำให้หนังสือเล่มนี้เยี่ยมยอดที่สุด

หนังสือไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต สร้างสรรค์โดยหนึ่งเดียวในนักเขียนผู้หญิงที่ได้รับรางวัลซีไรต์ 2 ปีซ้อนสำหรับนักอ่านที่ชื่นชอบหนังสือของสำนักพิมพ์ มติชน จะทราบว่าสำนักพิมพ์มติชนไม่ค่อยมีผลงงาน นวนิยาย ออกมามากนัก แต่ถ้าเป็นหนังสือวรรณกรรม ส่วนมากก็จะเป็นเรื่องสั้น หนังสือ ไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต จะต้องโดดเด่นมากพอที่ทำให้สำนักพิมพ์ มติชนตัดสินใจตีพิมพ์ออกมานวนิยายเรื่อง ไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต สร้างสรรค์โดย วีรพร นิติประภา นักเขียนผู้หญิงคนแรกที่ได้รับรางวัลซีไรต์ (S.E.A. Write : Southeast Asian Writers Award) 2 ปีซ้อน ตีพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ มติชน ผู้เขียนนิยายไส้เดือนตาบอดในเขาวงกตนั้นได้รับแรงบันดาลใจในการเขียนมาจากเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมืองของสังคมไทยในปี 2553 ผู้เขียนไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต ใช้ตัวละครเป็นเครื่องมือในการพูดถึงความ “ไร้สาระ” ของความขัดแย้ง ทางการเมืองของสังคมไทยที่นำไปสู่การสูญเสียความเป็นมนุษย์ ความเป็นตัวของตัวเองและความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างบุคคล โดยมีแนวคิดเรื่อง มายาคติพื้นฐานสำคัญของการประพันธ์ไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต นวนิยายรักน้ำเน่าฉบับมาตรฐานไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต เป็นนวนิยายรัก “น้ำเน่า” ฉบับมาตรฐานเรื่องหนึ่งกล่าวถึงความรักสามเส้าของพี่น้องที่รักชายคนเดียวกัน กล่าวถึงเด็กสาว สองคนถูกพ่อแม่ทอดทิ้ง เติบโตมาลำพังกับพี่เลี้ยงที่มีสามีพร้อมกันสามคน เมื่อเด็กทั้งสองเติบโตต่างใช้ชีวิต ท่ามกลางความเปลี่ยวเหงาและหลงทางกับสุนทรียะของหนังสือ เสียงเพลง อาหารและการเมืองในที่สุดการอยู่อย่างไร้ความสุขทำให้ตัวละครเลือกทำอะไรสักอย่างให้กับชีวิต ไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต เป็นวรรณกรรมที่เต็มไปด้วยสัญลักษณ์ เพราะฉะนั้นผู้อ่านต้องตีความสัญลักษณ์เหล่านั้นเพื่อเข้าถึงความหมายที่ผู้เขียนพยายามจะสื่อ อีกทั้ง ไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต สามารถทำให้ผู้อ่านที่ตั้งใจอ่านอย่างลึกซึ้ง ได้ขบคิด วิเคราะห์ และลองเดาเนื้อเรื่อง ส่วนนักอ่านที่กำลังสงสัยว่า ทำไมไส้เดือนที่ไม่มีตาอยู่แล้ว แล้วนักเขียนยังจะให้ไส้เดือนนั้นต้องตาบอดไปอีก ยังไม่พอผู้เขียนยังไส้เดือนที่ตาบอดหลงอยู่ในเข้าวงกต ถ้าผู้อ่านอยากรู้ว่าคืออะไร ต้องลองเปิดหนังสือ ไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต ลองอ่านกันดูร้านนายอินทร์ ร้านหนังสือที่รวบรวม นวนิยายครบทุกรสชาติที่คุณอยากอ่านนวนิยาย คือหนังสือที่มีเรื่องราวจากจินตนาการของนักเขียน เนื้อเรื่องชวนติดตาม การอ่านหนังสือนวนิยายนั้นมีเสน่ห์แตกต่างจากการรับชมผ่านวิดีโอ ภาพยนตร์ หรือการฟังเพลง เพราะผู้อ่านจะต้องใช้จินตนาการของตัวเอง ในการเข้าถึงเนื้อหาและความหมายที่ตัวหนังสือนั้นสื่อออกมา สิ่งนี้เองที่ถือว่าเป็นเสน่ห์ที่สำคัญของการอ่านหนังสือนิยาย และร้านหนังสือนายอินทร์เข้าใจดีถึงความต้องการของผู้อ่าน จึงคัดสรร นวนิยายคุณภาพจากหลากหลายสำนักพิมพ์มาให้นักอ่านได้เลือกอ่านกัน รวมถึงหนังสือ ไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต ที่ได้รับรางวัลซีไรต์ พิเศษส่งหนังสือฟรีทั่วประเทศไทย สำหรับนักอ่านที่ซื้อหนังสือผ่านเว็บไซต์นายอินทร์ครบ 600 บาท

พบกับผู้นำเทรนด์ฮิตเกี่ยวกับเบอร์โทรศัพท์ ทุกปริศนาของตัวเลข ทุกความเชื่อมโยง ทำให้เรื่องที่เคยดูยากๆ กลับดูสนุกและง่ายดาย จึงเป็นที่น่ายินดีถ้าคุณมีหนังสือเล่มนี้อยู่ในมือ เพราะอีกไม่นาน...มันจะทำให้คุณสนุกและทึ่งไปกับตัวเลขอย่างแน่นอน

หนังสือเล่มนี้จะทำให้คุณสนุกกับการเรียนรู้เทคนิคต่างๆ อย่างเต็มที่ เพราะคุณแอนเป็นนักสร้างสรรค์ นักแต่งหน้ารุ่นใหม่ที่เข้าใจถึงกระบวนการเร่งรีบวุ่นวายในชีวิตของสาวในเมือง ถ้าสาวๆ เปิดอ่านดูจะพบว่า การแต่งหน้าเองไม่ใช่เรื่องยากและสนุกกว่าที่คิด (แถมยังประหยัดเงินในกระเป๋าด้วย) ลองดูนะ!!!

เป็นความบันเทิงชั้นดีที่วางไม่ลง ดำเนินเรื่องเร็ว บู๊ระทึก...เรื่องราวความโกลาหลที่ทั้งดุเดือดและยอดเยี่ยม อ่านสนุกสุดๆ

นวนิยายรักย้อนยุคที่ถ่ายทอดเรื่องราวได้อย่างมีอารมณ์ขัน และเต็มไปด้วยบทสนทนาอันหลักแหลมชวนให้ติดตาม และเมื่อเริ่มอ่านแล้วจะหยุดไม่ได้!

เป็นหนังสือที่ชวนคุณ "ก้าวถอยหลัง" เพื่อค้นหาความก้าวหน้าและคุณค่าในชีวิต เป็นหนังสืออีกเล่มหนึ่งที่เขียนถึง "ความสุข" แบบง่ายๆ นอกจากนี้ใครที่สนใจเรื่องการพัฒนาตนเองหรือพัฒนาองค์กรในแนว Dialogue ไม่ควรพลาดที่จะอ่านผลงานดีๆ จากประสบการณ์จริงๆ แบบนี้ อ่านง่ายๆ เบาๆ ไหลๆ

นิทานที่เขียนจากบทกวีคลาสสิกของจองโฮซึง กวีชั้นครูแห่งประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งซุกซ่อนความจริงของชีวิตเอาไว้อย่างแยบยลและอบอุ่นนุ่มนวล สะกิดให้เรารู้สึกคลับคล้ายคลับคลาคล้ายกำลังพลิกอ่านเรื่องของตัวเอง

หนังสือเล่มนี้สร้างปริศนาและจุดหักมุมที่น่าสนใจ ทำให้เรื่องนี้กลายเป็นนิยายรักที่ตื่นเต้นแบบ "Da Vinci Code" สำหรับผู้หญิงเก่งสมัยใหม่

เนื้อเรื่องสนุกมาก เหมาะสำหรับพนักงานบริษัททุกคนเลย ยิ่งทำเป็นการ์ตูนก็ยิ่งอ่านง่าย เข้าใจง่าย

หนึ่งในอาการของคนที่อยู่ใน "กล่อง"...สมมุติว่าเราไม่ชอบใครในที่ทำงาน เราก็จะหาพวก พยายามหาโอกาสพูดคุยกับคนอื่น เพื่อหาเหตุผลที่ทำให้คนนั้นดูไม่ดี ชักชวนเพื่อนร่วมงานคนอื่นให้ไม่ชอบคนนั้นไปด้วย ซึ่งหากเพื่อนร่วมงานคนไหนคล้อยตามที่เราบอก นั่นก็หมายความว่า เขาลงมาอยู่ใน "กล่อง" กับเราแล้วนั่นเอง.เนื้อหาข้างต้น เป็นเพียงตัวอย่างเหตุการณ์ที่อยู่ในหนังสือ..วิธีพาตัวเองออกจาก "กล่อง" ใบเล็ก (Leadership & Self-Deception : Getting out of the Box) เล่มนี้ก่อนอื่นเลยมาดูกันก่อนว่า "กล่อง" ในที่นี้คืออะไร?.คำว่า “กล่อง” คล้ายๆ กับเป็นการเปรียบเทียบเชิงนามธรรมของคนที่มองแต่มุมมองของตัวเอง เป็นการเอากล่องมาครอบตัวเองไว้ หรือเอาตัวเองไปอยู่ในกล่องสร้างกำแพงปิดกั้นผู้อื่น..ทำให้มองไม่เห็นจิตใจ หรือความคิดในแง่มุมของผู้อื่น เห็นผู้อื่นเป็นเพียงสิ่งของ ไม่ใช่คน.ซึ่งเล่มนี้ ผู้เขียนเน้นยํ้าในประเด็นปัญหาที่เกิดจากคน และการแก้ปัญหาในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น โดยเฉพาะที่ทำงาน.โดยจุดเริ่มต้นของปัญหา อาจจพเกิดจากการที่เรา>>กำลังหลอกตัวเอง<< (ภาษาอังกฤษ เรียกว่า Self-Deception)ซึ่งเป็นอาการที่คนเรามักจะปฏิเสธตัวเองว่ามีปัญหา เลยไปมองสิ่งรอบๆ ตัว ทำให้มันบิดเบือนไป หรือพยายามหาเหตุผลมาเข้าข้างตนเอง กล่าวโทษสิ่งอื่นภายนอก ว่าเป็นปัญหาแทน.เพราะฉะนั้น หากเราอยากที่จะแก้ปัญหาเราต้องเห็นและยอมรับตัวเองก่อนว่า กำลังอยู่ใน “กล่อง”เราจึงจะสามารถก้าว เดินออกมาจาก “กล่อง” นั้นได้.จุดเด่นของหนังสือ How To เล่มนี้ อีกอย่าง ก็คือ การเล่าเรื่องแบบผ่านเหตุการณ์ ฉากสมมุติต่างๆมีตัวละครเป็นผู้บริหารระดับสูง เจริญก้าวหน้าแค่ในเรื่องงาน แต่ล้มเหลวเรื่องคนและความสัมพันธ์ ทำออกมาได้น่าสนใจและอ่านเพลินมากๆ โดยเนื้อความหลักๆ หรือใจความสำคัญทั้งหมดนั้น สรุปได้ว่า ต้องหยุดต่อต้านคนอื่น แล้วมองว่าเค้าเป็นมนุษย์เหมือนกับเรา พูดง่ายๆ คือ ‘เอาใจเขามาใส่ใจเรา’ นั่นเอง

เป็นนิยายเกาหลีย้อนยุคที่มีเนื้อหาแปลกใหม่ ฉีกไปจากขนบเก่าที่มักกล่าวถึงการกู้ชาติ ด้วยการเสนอเรื่องรักของวัยรุ่นท่ามกลางบรรยากาศในยุคสมัยโชซอน มีตัวละครที่มีเสน่ห์และชีวิตชีวา ทั้งนางเอกปลอมเป็นชายและพระเอกที่หล่อบาดใจ จนเป็นที่นิยมในหมู่วันรุ่นเกาหลีอย่างมาก การันตีความสนุกด้วยการถูกนำไปสร้างเป็นละครโทรทัศน์ทางช่อง KBS และช่อง 7 กันเลยทีเดียว!

สัมผัส "After Earth" ในรูปแบบนวนิยายจากปลายปากกาของ ปีเตอร์ เดวิด สุดยอดนักเขียนนวนิยายไซไฟที่สร้างสรรค์ภาพจักรวาลอันสุดมหัศจรรย์ นี่คือประสบการณ์ข้ามอวกาศ ตั้งแต่วันสุดท้ายของมนุษยชาติบนดาวโลกจนถึงวันที่ต้องกลับไปอีกครั้ง!

เป็นวรรณกรรมแปลที่สร้างข้อสงสัย คำถาม และปมขัดแย้งในใจอย่างต่อเนื่อง ครบรสทั้งการผจญภัย การเมือง เงื่อนงำ และโรแมนติก จนทำให้คุณไม่สามารถหยุดอ่านได้เลย

นี่คือเรื่องราวที่จะทำให้คุณต้องทบทวนถึงคุณค่าของเวลาอีกครั้ง และตระหนักได้ว่า...แท้จริงแล้วเวลามีคุณค่าเพียงใด

เนื้อหาอ่านสนุก ไม่น่าเบื่อ เข้าใจง่าย สะท้อนภาพชีวิตวัยเยาว์และสังคมไทยในสมัยก่อน นอกจากนี้ยังให้ความหวังและสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนที่กำลังท้อแท้ได้เป็นอย่างดี

บทสรุปของนวนิยายแฟนตาซีไตรภาคที่ถูกถามถึงมากที่สุด "ชุดสุดขอบจักรวาล” ที่จะพาคุณไปสัมผัสมิติเร้นลับของจักรวาลผสานรักโรแมนติก ผ่านเรื่องราวของการทวงบัญชีแค้นของเจ้าชายนอกบัลลังก์กับหญิงสาวชาวโลก ผู้ที่เขาปักใจเชื่อว่าคือเนื้อคู่ตามคำทำนายจากดวงดาว

"บกพร่อง ดีกว่า ไม่สร้างสรรค์" คำเพียงสั้นๆ แต่ให้ความหมายกินใจมากมาย  แล้วอย่างนี้จะไม่ให้หลงรักหนังสือเล่มนี้เชียวหรือ แล้วเพื่อนๆ ชาวนายอินทร์หละคะ ชอบคำคมในเล่มคำดมคำไหน อย่าลืมมาเล่าให้หนอนๆ อ่านบ้างนะคะ