รายละเอียด : ฤารักฉัตรา

ฤารักฉัตรา

สฤษดิ์ธา รังสรรค์ (กูล อายุ 26) ทายาทเพียงคนเดียวในพระองค์เจ้าสฤษดิ์รังสรรค์ต้องบินด่วนมาบวชหน้าไฟในงานศพ หม่อมเจ้าเกศเกล้า อัศวภาคย์ เนื่องจากอัศวภาคย์มีทายาทซึ่งเป็นหญิงเพียงคนเดียว คือหม่อมเจ้าหญิงฉัตรเกล้า อัศวภาคย์ (หญิงฉัตร อายุ 17)
พระองค์เจ้าสฤษดิ์รังสรรค์ (พระองค์ชายก่อ) เป็นพี่ชายของพระองค์เจ้าสิรินภิลาส (พระองค์หญิงเกื้อ)
หญิงเกื้อแต่งงานกับเจ้าฟ้าต้นราชสกุล อัศวภาคย์มีลูกชายคือ พระองค์ชายพัฒน์ และมีหลานสาวคือ หญิงฉัตร (นางเอก)
ชายพัฒน์มีคนรักอยู่แล้วชื่อนิตยา เป็นคนธรรมดา เจ้าฟ้ากับหญิงเกื้อไม่ย่อมรับจึงให้แต่งงานกับ หม่อมเจ้าเกศเกล้า แต่ชายพัฒน์ไม่ยอมพยายามจนถึงที่สุดที่จะแต่งกับนิตยา สุดท้ายก็ไม่สำเร็จ ได้แต่งงานกับหม่อมเจ้าเกศเกล้าจนมีลูกสาวคือฉัตรเกล้า
แม้จะไม่ชอบแม่ แต่ก็รักทะนุถนอมลูกสาวมาก ในขณะที่มีครอบครัวก็ยังติดต่อนิตยาที่พยายามครองตัวเป็นโสด (แต่ไม่ได้มีอะไรกัน)
17 ปีต่อมา หม่อมเจ้าเกศเกล้ามีน้องชายคือหม่อมเจ้าวัชระ วรวัชร(ชายวัช อายุ 18) บ้านเก่าก่อนออกเรือนมีฐานะแย่ลง จึงคิดจะให้ชายวัชแต่งงานกับหญิงฉัตรเพื่อที่จะนำสมบัติมาประคองตระกูลตัวเอง ในช่วงนั้นเกศเกล้า(แม่นางเอก) ก็ป่วยหนักด้วยโรคหัวใจ อาการทรุดลง บ้านนางเอกกีดกันชายวัชอ้อมๆ ชายวัชพอจะดูออกจึงได้วางแผนจะหลอกหญิงฉัตรมาทำมิดีมิร้าย จะได้แต่งงานอย่างไม่มีทางเลือก แผนนี้รู้ถึงนิตยา(อายุ 35) ซึ่งถูกจ้างมาเป็นครูสอนภาษาฝรั่งเศสให้ชายวัชที่วัง นิตยารู้ว่าลูกของคนรักอยู่ในอันตรายและชายพัฒน์จะต้องเสียใจที่สุดจึงได้พยายามขัดขวางทุก
17 ปีต่อมา หม่อมเจ้าเกศเกล้ามีน้องชายคือหม่อมเจ้าวัชระ วรวัชร(ชายวัช อายุ 18) บ้านเก่าก่อนออกเรือนมีฐานะแย่ลง จึงคิดจะให้ชายวัชแต่งงานกับหญิงฉัตรเพื่อที่จะนำสมบัติมาประคองตระกูลตัวเอง ในช่วงนั้นเกศเกล้า(แม่นางเอก) ก็ป่วยหนักด้วยโรคหัวใจ อาการทรุดลง บ้านนางเอกกีดกันชายวัชอ้อมๆ ชายวัชพอจะดูออกจึงได้วางแผนจะหลอกหญิงฉัตรมาทำมิดีมิร้าย จะได้แต่งงานอย่างไม่มีทางเลือก แผนนี้รู้ถึงนิตยา(อายุ 35) ซึ่งถูกจ้างมาเป็นครูสอนภาษาฝรั่งเศสให้ชายวัชที่วัง นิตยารู้ว่าลูกของคนรักอยู่ในอันตรายและชายพัฒน์จะต้องเสียใจที่สุดจึงได้พยายามขัดขวางทุกอย่างจนแผนล่ม ชายวัชที่เป็นลูกศิษย์โกรธมากจึงใช้กำลังกับนิตยา ชายพัฒน์รู้เรื่องหลังจากนั้นไม่นานก็โกรธบ้านเก่าหม่อมเจ้าเกศเกล้ามากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะกลัวชื่อเสียงบ้านตาจะเสียมาถึงลูกสาว ชายพัฒน์มาปลอบนิตยาบ่อยขึ้นในขณะที่เกศเกล้ากำลังป่วย สภาพจิตใจนิตแย่มากเคยคิดจะฆ่าตัวตายหลายครั้งชายพัฒน์สงสารคนรักพยายามมาอยู่ด้วยและมีอะไรกันในที่สุด เดือนกว่าๆต่อมาก็รู้ว่านิตยาท้องเป็นจังหวะเดียวกับที่หม่อมเจ้าเกศเกล้าสิ้นพอดี สฤษดิ์ธา รังสรรค์ (กูล) ทายาทเพียงคนเดียวในพระองค์เจ้าสฤษดิ์รังสรรค์ต้องบินด่วนมาบวชหน้าไฟในงานศพ หม่อมเจ้าเกศเกล้า อัศวภาคย์ เนื่องจากอัศวภาคย์มีทายาทซึ่งเป็นหญิงเพียงคนเดียว คือหม่อมเจ้าหญิงฉัตรเกล้า อัศวภาคย์ (หญิงฉัตร)
เมื่อชายพัฒน์รับรู้นิสัยใจคอกูลบ้างประกอบกับอยากจะให้ลูกสาวได้แต่งงานกับคนดีๆ เพื่อหนีจากหม่อมเจ้าวัชระ น้าชาย และตัวเองจะพานิตยาซึ่งท้องอยู่เข้ามาเป็นหม่อมคนใหม่ จึงตกลงกับพระองค์ชายก่อให้หลานทั้งสองแต่งงานกัน
กูลกับฉัตรแต่งงานกันแล้วก็ย้ายออกมาอยู่ที่บ้านกูล อยู่กันแบบเพื่อนเพราะฉัตรอยากเรียนแพทย์ กูลก็สนับสนุน กูลดูแลฉัตรอย่างดีที่สุดเพื่อตอบแทนพระองค์ชายก่อที่เลี้ยงตัวเองมาจนไม่รู้ตัวว่ารักฉัตรตั้งแต่เมื่อไร
ก่อนวันสอบเข้ามหาวิทยาลัยสามวัน ฉัตรรู้ว่าพ่อมีเมียใหม่และกำลังท้องก่อนที่แม่ตัวเองจะตายเสียอีกก็เสียใจมาก ผลสอบรอบนั้นคือ ไม่ผ่าน
ฉัตรเศร้ามาก เศร้าที่สุด หล่อนสมบูรณ์แบบมาตลอดชีวิต แล้วตอนนี้มันเปลี่ยนไป ดีที่มีกูลคอยดูแล ประสานรอยร้าวของพ่อลูก จนฉัตรเริ่มยอมรับแม่ใหม่กับน้องได้ทีละนิด
ฉัตรมีกำลังใจขึ้น อ่านหนังสือเพื่อที่จะสอบใหม่ปีหน้าแล้วก็สอบได้เรียนหมอสมใจ หลังจากที่ทุกอย่างคลี่คลายแล้วก็อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข