รายละเอียด : ฉงจื่อลิขิตหวนรัก เล่ม 1-2 (2 เล่มจบ)

ฉงจื่อลิขิตหวนรัก เล่ม 1-2 (2 เล่มจบ)

ฉงจื่อ เด็กน้อยขอทานข้างถนนได้รับความช่วยเหลือจากเซียนหนุ่มท่านหนึ่งทำให้นางอยากเข้าเป็นศิษย์ของสำนักเซียนเพื่อที่จะได้ช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากคนอื่นๆ เด็กหญิงได้ฟันฝ่าอุปสรรคซึ่งถูกจัดสรรมาเป็นบททดสอบต่างๆ จนได้เข้ามาถึงที่สำนักเซียนหนานหัว ทว่าท่านเซียนทั้งสามท่านกลับเห็นว่านางมีจิตดับธาตุซึ่งเป็นคุณลักษณะของผู้ที่จะสำเร็จเป็นมารฟ้าในอนาคตจึงไม่ยอมรับนางไว้เป็นศิษย์และไล่ออกจากสำนักเซียนไป ทว่าลั่วอินฝาน ผู้พิทักษ์แห่งสำนักหนานหัวได้รับนางไว้เป็นศิษย์ของเขา เพื่อให้เด็กหญิงอยู่ในสายตาและไม่ถูกพวกปีศาจชิงตัวไปสร้างปัญหา แต่เซียนหนุ่มกลับไม่ได้สอนวิชาอาคมใดๆ ให้แก่นางเลย นอกจากวิชาเล็กๆ น้อยๆ เท่าที่จำเป็น เช่น วิชาดึงดูดปราน (วิชาที่ช่วยให้อิ่มโดยไม่ต้องกินอาหาร) เพราะเขาตั้งใจให้นางใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบที่ยอดเขาไผ่ม่วงของเขาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น วันหนึ่งพญามารว่านเจี๋ยได้บุกเข้ามาชิงตัวคนรักที่ถูกกักไว้ที่สำนักชิงหัว และได้ทำร้ายถูกฉงจื่อเข้า ลั่วอินฝานจึงจำเป็นต้องถ่ายทอดปรานให้ลูกศิษย์ด้วยการจุมพิตเพื่อรักษาชีวิตของนางเอาไว้ โดยไม่รู้เลยว่าการกระทำนั้นของเขาได้สร้างความหวั่นไหวขึ้นในใจของลูกศิษย์ของตน เมื่อฉงจื่อหายจากอาการบาดเจ็บ นางจำเป็นต้องเข้าร่วมงานประลองกระบี่ตามกฎของสำนักหนานหัว ลั่วอินฝานจึงมอบคทาหยกดาราให้เด็กสาวไว้ป้องกันตัว แต่ถึงกระนั้น นางกลับได้รับบาดเจ็บเนื่องจากคู่ต่อสู้เผลอลงมือหนักเกินไป  นับตั้งแต่นั้น ลั่วอินฝานก็เริ่มคิดได้ว่าการที่เขาไม่สอนวิชาอะไรให้แก่ฉงจื่อเลยจะทำให้นางยิ่งมีอันตรายมากยิ่งกว่า ดังนั้น เซียนหนุ่มจึงเริ่มถ่ายทอดวิชาประเภทที่ไว้ใช้ป้องกันตัวให้แก่นาง และกำชับให้นางหมั่นฝึกฝนในระหว่างที่เขาต้องไปดักจับตัวพญามารว่านเจี๋ยเพื่อชิงกระบี่มารซึ่งเป็นอาวุธอันตรายที่สำนักคุนหลุน ฉงจื่อรู้สึกเป็นห่วงอาจารย์มาก นางจึงแอบหนีออกจากยอดเขาไผ่ม่วง และขอร้องศิษย์พี่ ฉินเคอ ให้ช่วยพานางปะปนไปกับกลุ่มลูกศิษย์ที่จะต้องเดินทางไปเป็นกำลังเสริมให้แก่ลั่วอินฝานที่สำนักคุนหลุน ทำให้นางได้พบกับ จั๋วฮ่าว บุตรชายของเจ้าสำนักชิงหัวที่นางเคยพบเขาเมื่อครั้งที่ติตตามลั่วอินฝานไปร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของบิดาเขาเมื่อหลายปีก่อน ระหว่างทาง ฉินเคอกับฉงจื่อถูกปีศาจงูหลอกล่อไปทำร้าย แม้ฉงจื่อจะช่วยเหลือฉินเคอออกมาจากค่ายกลได้ แต่นางกลับต้องมาพบกับ หยินสุ่ยเซียน เซียนสาวสวยผู้ต้องกลายเป็นมารเพราะหลงรักอาจารย์ของตน เรื่องราวของหยินสุ่ยเซียนทำให้ฉงจื่อเพิ่งรู้ตัวว่าตนเองกำลังตกหลุมรักลั่วอินฝาน ซึ่งเป็นความรักต้องห้าม

เนื้อหาปกหลัง : ฉงจื่อลิขิตหวนรัก เล่ม 1-2 (2 เล่มจบ)

สองศิษย์อาจารย์ สามชาติมารปีศาจ โลกหมุนเวียนเปลี่ยนผันรักแค้นฝังแน่นหทัยลึกล้ำเพียงใดใครรู้บ้าง ยอดเขาหนานหวาของเขาต้องปั่นป่วน นทีสี่สมุทรเหือดแห้ง เทพฤามารแตกต่างที่ใด สิ่งที่เขาหวาดกลัวที่สุดคือการมองย้อนกลับไปในอดีตแล้วพบเพียงผืนฟ้าว่างเปล่ากับแสงจันทร์เดียวดาย ความปรารถนาเพียงหนึ่งเดียวในใจคือได้กอดนางไว้ในอ้อมแขนอีกครา ทว่าแสงดาวมิอาจสะท้อนเหนือเกลียวคลื่นฉันใด นางก็มิอาจหวนกลับมาหาเขาได้อีกฉันนั้น จากเด็กหญิงขอทานตัวน้อยที่กำพร้าพ่อแม่ได้รับความช่วยเหลือจากเทพเซียนจนทำให้นางอยากเข้าเป็นศิษย์สำนักเซียน เพื่อช่วยเหลือมนุษย์ผู้ตกทุกข์ได้ยาก ดังเช่นที่นางเคยได้รับโอกาสนั้น แต่ด้วยมี "จิตดับธาตุ" ของจอมมารติดตัวมาแต่กำเนิด จึงมิอาจเป็นที่ยอมรับและเชื่อใจในสำนักเซียน แม้แต่อาจารย์ของนางเอง ซึ่งนางแอบทุ่มเทใจรักให้เขาทั้งหมด ผิดหรือ..ที่นางมีจิตมารทั้งที่มิเคยผลาญชีวิตผู้ใด ผิดหรือ..ที่นางเพียงแค่อยากอยู่เคียงข้างใกล้ชิดคนที่นางรัก เป็นมารหรือเซียน..แท้แล้วผู้ใดกำหนด สุดท้าย..นางจะล่วงเข้าสู่ทางมารหรือไม่ รักแท้และจิตใจอันเสียสละจะเอาชนะ อคติที่ทำให้จิตใจของ เขา มืดบอดหรือไม่ นี่คือนิยายรักที่บีบรัดหัวใจและตราตรึงในทุกฉากทุกตอน

รีวิวโดยสำนักพิมพ์ : ฉงจื่อลิขิตหวนรัก เล่ม 1-2 (2 เล่มจบ)

ฉงจื่อ ลิขิตหวนรัก เล่มนี้เป็นผลงานของสู่เค่อ เป็นนิยายรักระหว่างศิษย์อาจารย์แนวเทพเซียนโบราณที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่งเล่มหนึ่ง ทั้งยังได้รับคำชื่นชมและรีวิวดีมากจากแฟนนิยายทั้งชาวจีนและชาวต่างชาติ พอบอกว่า "สะเทือนใจ" หลายคนอาจเริ่มลังเลว่าจะอ่านดีไหม พระนางจะลงเอยกันหรือเปล่า ก็ต้องขอบอกว่าเนื้อหาของเรื่องนี้ค่อนข้างหนัก เข้มข้นและทำให้รู้สึกปวดใจได้เกือบตลอดเวลากับชะตากรรมอันรันทดของนางเอก แต่สิ่งที่ยิ่งกว่าการลุ้นว่าศิษย์อาจารย์คู่นี้จะได้ลงเอยกันในท้ายที่สุดหรือไม่ก็คือนิยายเรื่องนี้สะท้อนให้เราเห็นอะไรหลายอย่างเกี่ยวกับการตัดสินคุณค่าระหว่างสองขั้ว ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือเซียน ปิศาจหรือเทพ ธรรมะหรืออธรรม..แท้จริงแล้วเราใช้บรรทัดฐานอะไรเป็นตัวกำหนด ในเมื่อ "อคติ" มีบทบาทในจิตใจของมนุษย์ทุกคน ไม่เว้นแม้แต่ผู้ที่เหนือมนุษย์อย่างเทพเซียน สุดท้ายการตีตราผู้ใดว่าดีหรือเลวเป็นคำตัดสินที่กลั่นกรองจากความเที่ยงธรรมของเราหรือเปล่าหลายบทหลายตอนในเล่มย้ำเตือนให้เราคิดถึงเรื่องนี้ตลอดเวลา และสิ่งนี้เป็นประเด็นสำคัญของเรื่องที่มีอิทธิพลต่อการกระทำและความรู้สึกนึกคิดของตัวละครจนนำไปสู่ผลลัพธ์ในท้ายที่สุด

สำนักพิมพ์อรุณ