เล่นแร่แปรศพ (The Cabinet of Curiosities)

ผู้เขียน: Douglas Preston&Lincoln Child (ดักลาส เพรสตัน, ลินคอล์น ไชลด์)

สำนักพิมพ์: น้ำพุ

หมวดหมู่: นิยายแปล , นิยายแปล

5 (4) เขียนรีวิว

250.75 บาท

295.00 บาท ประหยัด 44.25 บาท (15.00 %)

จำนวนคะแนนที่ได้รับ 30 คะแนน

NEW YORK TIMES BESTSELLER : เมื่อการฆ่าใครคนหนึ่งเท่ากับการยืดอายุของใครอีกคน < แสดงน้อยลง NEW YORK TIMES BESTSELLER : เมื่อการฆ่าใครคนหนึ่งเท่ากับการยืดอายุของใครอีกคน
  • ส่วนลด:
    ลด 15%
  • โปรโมชั่น:Naiin.com มหกรรมนิยายออนไลน์ 24 #ใครฆ่าลิลลี่ หนังสือเล่มลด 15%*

250.75 บาท

295.00 บาท
295.00 บาท
ประหยัด 44.25 บาท (15.00 %)

จำนวนคะแนนที่ได้รับ 30 คะแนน

จำนวน :

1

จำนวนหน้า
541 หน้า
ประเภทสินค้า
ขนาด
14.3 x 20.9 x 2.8 CM
น้ำหนัก
0.568 KG
บาร์โค้ด
9786162871498

รายละเอียด : เล่นแร่แปรศพ (The Cabinet of Curiosities)

พีวี บ็อกเซอร์มองสำรวจพื้นที่ก่อสร้างด้วยความรังเกียจ ห้วหน้าคนงานเป็นคนกักขฬะ พวกคนงานก็โหลยโท่ย แต่ที่แย่สุดๆ คือคนคุมรถขุดตีนตะขาบ เจ้านั่นไม่รู้อะไรสักอย่างเกี่ยวกับเครื่องจักรไฮดรอลิก เผลอๆ อาจได้งานนี้เพราะสหภาพแรงงานหรือไม่ก็รู้จักใครสักคน ไอ้งั่งนั่นกำลังโยกบุ้งกี๋ไปมา เหมือนเด็กนักเรียนใหม่ไม่ประสีประสา บ็อกเซอร์ยืนกอดอกมองบุ้งกี๋ใหญ่ยักษ์ตักเศษอิฐเศษปูนจากตึกพักอาศัยเก่าแก่ที่ถูกทุบทิ้ง มักยำขึ้นก่อนจะหยุดชะงักพร้อมเสียงหวีดแหลม จากนั้นก็เริ่มโยกไปซ้ายทีขวาที ไม่รู้ไปเอาได้ตัวตลกพวกนี้มาจากไหน

เขาได้ยินเสียงคนเดินมาทางข้างหลังจึงหันไปมอง เห็นหัวหน้าคนงานเดินมาหาด้วยใบหน้าเปื้อนฝุ่นและเหงื่อไคล "พีวี นายมายืนเซ่ออะไรอยู่ตรงนี้" เจ้าตัวแค่ขยับกล้ามแขนล่ำๆ ทำเป็นไม่ได้ยิน บ็อกเซอร์เป็นคนเดียวในที่นี้ที่รู้งานจริงๆ คนอื่นจึงไม่ชอบขี้หน้าเขา แต่ใครจะไปสน เขาชอบอยู่คนเดียวมากกว่า

เขาได้ยินเสียงเครื่องจักรขุดลงไปในดินที่อัดแน่น ชั้นดินใต้ตึกเปิดออกรับแสงแดดไม่ต่างจากปากแผลสด ด้านบนเป็นยางมะตอยและพื้นซีเมนต์ ถัดลงไปเป็นอิฐ เศษหินเศษปูน แล้วก็อิฐอีกชั้น ลึกลงไปกว่านั้นถึงจะเจอดินฐานรากของอพาร์ตเมนต์ที่เป็นอาคารกระจกต้องขุดลงไปลึกพอดู

สายตาเขามองเลยเขตก่อสร้างไป หมู่อาคารหินทรายในย่านโลเวอร์ อีสต์ไซด์ดูเด่นชัดท่ามกลางแสงยามบ่าย บางตึกเพิ่งจะปรับปรุงใหม่ อีกไม่นานตึกอื่นก็คงโดยตามๆ กัน สภาพแวดล้อมเปลี่ยนไปเมื่อเจ้าของถูกเปลี่ยนมือ จากคนรายได้น้อยเป็นชนชั้นกลาง "เฮ้ พีวี หูหนวกหรือไง" บ็อกเซอร์ขยับกล้ามอีกครั้ง นึกภาพขึ้นมาแวลหนึ่งว่าได้อัดกำปั้นใส่หน้าแดงๆ นั่น "ให้ไว ไปทำงานได้แล้ว ไม่ใช่เวลายมายืนบื้อ"

หัวหน้าพยักเยิดไปทางเหล่าคนงานแต่ไม่ได้เข้ามาใกล้ นับว่าหมอนั่นยังพอฉลาดอยู่บ้าง บ็อกเซอร์มองเพื่อนคนงานในกะที่กำลังง่วนตักเศษอิฐไปกองไว้บนรถบรรทุก ต้องเอาไปขายให้กับพวกคนรุ่นใหม่ไฟแรงที่ใช้ชีวิตอู้ฟู่แถวนี้แน่ พวกนั้นรับซื้ออิฐเก่าๆ ในราคาก้อนละห้าดอลลาร์ เขาออกเดินช้าๆ ให้หัวหน่ารู้ว่าเขาไม่รีบ

เกิดเสียงตะโกนโหวกเหวกจากอีกทาง เสียงเครื่องจักรหยุดลงทันที รถขุดดินทลายกำแพงกันดินตางฐานรากและเผยให้เห็นโพรงมืดสนิท คนขับปีนลงมาจากล้อตะขาบที่หยุดนิ่ง หัวหน้าคนงานนิ่วหน้าก่อนจะรีบเดินไปดู แล้วทั้งคู่ก็เริ่มคุยกันอย่างร้อนรน

"พีวี" หัวหน้าเรียก "ไหนๆ นายก็ไม่ทำงานแล้ว ฉันมีอย่างอื่นให้ทำ" บ็อกเซอร์เปลี่ยนทิศทางให้ดูเหมือนตั้งใจจะไปทางนั้นอยู่แล้ว แต่ไม่เงยหน้าขึ้นมองหรือแสดงท่าทีรับรู้เพื่อสื่อว่าเขาเหยียดหยามเจ้าหัวหน้าผอมกะหร่อง เขาแค่ไปหยุดยืนตรงหน้าฝ่ายนั้นแล้วก้มลงมองรองเท้าเปื้อนฝุ่นคู่เล็ก เท้าเล็กแสดงว่าไอ้นั่นคงเล็กตามไปด้วยแน่ๆ เขาเหลือบขึ้นมองช้าๆ

"เฮอะ ยินดีต้อนรับกลับโลกนะ มาดูนี่สิ" หัวหน้าคนงานเรียก บ็อกเซอร์เหลือบมองโพรงนั้นผ่านไ "พีวี ขอไฟฉายหน่อย" เขายื่นไฟฉายสีเหลืองที่เหน็บอยู่ตรงขอบกางเกงให้ หัวหน้ากดปุ่มเปิด "โอ๊ะ ติดด้วย" เขาพูดพลางส่ายหน้าเหมือนมันเป็นปาฏิหาริย์ ก่อนชะโงกดูในโพรง หมอนี่ดูงี่เง่าเป็นบ้าตอนที่ยืนเขย่งอยูบนกองเศษอิฐ ศีรษะและลำตัวหายเข้าไปในโพรง เจ้าตัวพูดเสียงอู้อี้ฟังไม่ออกก่อนถอยออกมา

"น่าจะเป็นอุโมงค์อะไรสักอย่าง" หัวหน้ายกมือขึ้นเช็ดหน้า ทิ้งคราบฝุ่นเป็นปื้นยาว "เฮอะ ในนั้นเหม็นชะมัด" ทุกคนขำกันหมดยกเว้นบ็อกเซอร์ ฟาโรห์คือใครกันวะ "ขอเถอะว่ะ อย่าให้เป็นแหล่งโบราณคดีเลย" หัวหน้าหันมาทางเขา "พีวี นายตัวใหญ่แข็งแรง ลงไปดูทีซิ" บ็อกเซอร์คว้าไฟฉายมาและปีนข้ามกองซากอิฐเข้าไปในโพรงนั้น ไม่ได้ชายตามองพวกน่าสมเพชที่เหลือด้วยซ้ำ เขาคุกเข่าลงบนกองอิฐก่อนใช้ไฟฉายส่องนำทาง อุโมงค์ทอดยางลึกลงไปใต้ดิน มีรอยร้าวจากผนังถึงเพดาน เขาลังเลเมื่อสังเกตว่ามันดูเหมือนจะถล่มลงมาอยู่รอมร่อ

"ตกลงนายจะเข้าไปไหม" หัวหน้าร้องถาม เสียงล้อเลียนแหลมเล็กดังขึ้น "แต่มันไม่ได้อยู่ในสัญญาของสหภาพนี่" ตามด้วยเสียงหัวเราะลั่น เขาตัดสินใจเข้าไปข้างใน เศษอิฐร่วงบนพื้นอุโมงค์ บ็อกเซอร์ตะกายกึ่งไถลตัวเข้าไปพร้อมกับฝุ่นฟุ้งกระจาย ในที่สุดก็ยืนขึ้นได้และส่องไฟฉายไปข้างหน้า แสงส่องผ่านฝุ่นไปได้ไม่ไกลนัก พอเข้ามาแล้วในนี้ดูจะมืดยิ่งกว่าเดิม ขณะรอให้สายตาชินกับความมืดและฝุ่นหายฟุ้งก็ได้ยินเสียงคุยกับเสียงหัวเราะจากด้านบน แต่แทบไม่ได้ยินราวกับเสียงแว่วมาจากที่ห่างไกล

เขาเดินไปอีกสองสามก้าวพร้อมส่องไฟกลับไปกลับมา มีหินย้อยลงมาจากเพดาน กลิ่นเหม็นเน่าโชยเตะจมูกอย่างกับกลิ่นหนูตาย ในพื้นที่ว่างเปล่ามีเพียงถ่านหินไม่กี่ก้อน ผนังสองข้างมีช่องโค้งเรียงเป็นแถวยาว แต่ละช่องกว้างราวหนึ่งเมตรและสูงเมตรครึ่ง ทุกช่องก่ออิฐปิดไว้ลวกๆ บนผนังมีน้ำซึมและได้ยินเสียงน้ำหยดเบาๆ ตอนนี้ในอุโมงค์เงียบมาก ผนังทำหน้าที่ปิดกั้นสรรพเสียงจากภายนอก

เขาเดินตอนไปอีกก้าวพลางส่องไฟไปตามผนังและเพดาน รอยร้าวดูจะขยายตัวมากกว่าเดิม เศษหินตะปุ่มตะป่ำยื่นออกมาจาเพดานโค้ง เขาถอยหลังอย่างระมัดระวัง สายตาไปหยุดอยู่ที่ช่องโค้งในผนังที่ถูกอิฐปิดไว้ เขาเดินเข้าไปดูช่องที่อยู่ใกล้ที่สุด อิฐก้อนหนึ่งเพิ่งหลุดออกมา ที่เหลือก็เริ่มหลวม เขาสงสัยว่าจะมีอะไรอยู่ในช่องนั้น อุโมงค์อีกช่องงั้นเหรอ จงใจซ่อนบางอย่างไว้หรือเปล่า

บ็อกเซอร์ลองส่องไฟเข้าไปในช่อง แต่แสงไม่พอจะส่องฝ่าความมืดด้านใน เขาล้วงมือเข้าไปจับอิฐก้อนล้างแล้วขยับ เป็นอย่างที่คิด อิฐก้อนนี้ก็หลวมเหมือนกัน เขาดึงมันหลุดพร้อมฝุ่นร่วงกราว จากนั้นก็ดึงก้อนและอีกก้อนถึงตอนนี้ได้กลิ่นเหม็นเน่ารุนแรงยิ่งกว่าเดิม เมื่อฉายไฟเข้าไปคราวนี้เจอช่องนั้น มีบางอย่างอยู่ข้างในดูเหมือนชามกระเบื้องเคลือบ เขาถอยไปก้าวหนึ่งขณะน้ำตารื่นเพราะอากาศเหม็นเน่า ความอยากรู้อยากเห็นกำลังขับเคี่ยวกับสัญชาตญาณที่ร้องเตือน ในนั้นอาจเป็นของเก่ามีค่าไม่งั้นทำไมต้องก่ออิฐปิดไว้ด้วยล่ะ

 


เนื้อหาปกหลัง : เล่นแร่แปรศพ (The Cabinet of Curiosities)

NEW YORK TIMES BESTSELLER

ระหว่างการก่อสร้างในย่านที่พลุกพล่านที่สุดของนครนิวยอร์ค คนงานขุดพบซากกระดูกมนุษย์ 36 ศพฝังรวมกันอยู่ในอุโมงค์ใต้ดิน นอกจากจะมีร่องรอยการผ่าตัดและชำแหละชิ้นส่วนอย่างสยดสยองแล้ว ทุกศพยังถูกเลาะเส้นประสาทไขสันหลังออกไป

เพนเดอร์แกสต์ เจ้าหน้าที่เอฟบีไอเข้ามาสืบคดีอย่างลับๆ และพบว่าอุโมงค์แห่งนี้เคยเป็นพิพิธภัณฑ์ในยุคโบราณมาก่อน ภายในนั้นมีห้องทดลองที่มีจุดประสงค์ลึกลับบางอย่าง แต่แล้วจู่ๆ มีมีเหยื่ยรายใหม่ถูกฆ่า และชำแหละด้วยวิธีเดียวกับเหยื่อเมื่อร้อยกว่าปีก่อน

ดูเหมือนการเล่นแร่แปรธาตุกับศพยังไม่สิ้นสุด ฆาตกรมีเป้าหมายค้างคาที่ต้องทำให้สำเร็จ ทางเดียวที่เพนเดอร์แกสต์จะหยุดฆาตกรผู้บ้าคลั่งในปัจจุบันก็คือ เขาต้องไขคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่เกิดขึ้นในอดีตให้ได้ แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่า เขาอาจต้องรับมือกับฆาตกรที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 150 ปี

"ผสานนิติวิทยาศาสตร์เข้ากับโบราณคดีได้อย่างลงตัวและหลักแหลม ปมปริศนาถาโถมเข้าใส่คนอ่านหลายระลอก เพรสตันและไชลด์เขียนได้น่าทึ่ง จนหาใครมาเทียบได้ยากจริงๆ" Publishers Weekly



รีวิวโดยสำนักพิมพ์ : เล่นแร่แปรศพ (The Cabinet of Curiosities)

สำหรับคอหนังสือแนวระทึกขวัญในเมืองไทย Douglas Preston และ Lincoln Child อาจเป็นชื่อที่ยังไม่ค่อยมีใครรู้จักมากนัก แต่ในระดับโลกเขาทั้งสองถือเป็นคู่หูเบอร์หนึ่งของวงการ โดยเฉพาะนิยายชุด Agent Pendergast ที่ขายดีถล่มถลายถึงขั้นครองอันดับหนึ่งในชาร์ต New York Times Bestseller ได้ทุกเล่มเลยที่เดียว

ตลอดยี่สิบปีที่ผ่านมา นิยายชุด Agent Pendergast สามารถสร้างความสั่นสะเทือนให้กับวงการนิยายระทึกขวัญในแบบที่ไม่มีนิยายชุดไหนทำได้ ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากประสบการณ์ของ Preston ในฐานะนักเขียนและบรรณาธิการของพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยานิวยอร์ก และประสบการณ์ของ Child ในฐานะนักเขียนนิยายแนวระทึกขวัญที่ติดอันดับขายดี ส่งผลให้นิยายชุดนี้ได้รับเสียงชื่นชมอย่างล้มหลามในแง่ของความสมจริง รวมถึงการผูกเรื่องเข้ากับประเด็นลึกลับทางประวัติศาสตร์ โบราณคดี และวิทยาศาสตร์ได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะ "The Cabinet of Curiosities" ในมือคุณเล่มนี้ ซึ่งยอดเยี่ยมถึงขั้นที่นักอ่านชาวอเมริกันโหวตให้เป็น 1 ใน 100 นิยายระทึกขวัญที่ดีที่สุดตลอดกาลเลยทีเดียว

"The Cabinet of Curiosities" หรือที่ชื่อภาษาไทยว่า "เล่นแร่แปรศพ" เปิดฉากด้วยการค้นพบโครงกระดูกปริศนาอายุร้อยกว่าปีใต้เขตก่อสร้างในแมนฮัตตันยุคปัจจุบัน โครงกระดูกทั้งสามสิบกว่าศพมีร่องรอยการผ่าตัดคล้ายกับถูกนำไปทดลองอะไรบางอย่าง แต่หลังจากเจ้าหน้าที่เอฟบีไออย่างเพนเดอร์แกสต์เข้ามาสืบได้ไม่นาน ก็เกิดคดีฆาตกรรมที่คล้ายคลึงกันขึ้นมา

ทางเดียวที่เพนเดอร์แกสต์จะหยุดฆาตกรผู้บ้าคลั่งในปัจจุบันได้ก็คือ เขาต้องไขคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่เกิดขึ้นเมื่อ 130 ปี ให้ได้ เราขอท้าให้คุณไขปริศนาคดีฆาตกรรมข้ามศตวรรษนี้ไปพร้อมกัน ความลับและเบาะแสทั้งหลายซ่อนอยู่ในเรื่องหมดแล้ว แต่ไม่ว่าคุณจะเก่งแค่ไหน เมื่อความจริงเฉลยออกมา เรารับประกันว่าคุณจะต้องตกตะลึง

รีวิว


5.0
5 (4)
  • 5
    100 %
  • 4
    0%
  • 3
    0%
  • 2
    0%
  • 1
    0%