รายละเอียด : ทนายตีนเปล่า THE BAREFOOT LAWYER

ทนายตีนเปล่า THE BAREFOOT LAWYER

เช้าวันหนึ่งของเดือนเมษายนปี 2012 เฉิน กวงเฉิง หนุ่มตาบอด "ทนายตีนเปล่า" ผู้ถูกทางการจีนกักบริเวณในบ้างตัวเองหาทางหลบหนีออกมาได้ ทั้ง ๆ ที่มีบามเฝ้าแน่นหนาและไปโผล่ที่สถานทูตอเมริกาในกรุงปักกิ่ง จนกลายเป็นกรณีพิพาทของสองยักษ์ใหญ่ตกเป็นข่าวไปทั่วโลก

เฉินเป็นลูกชายชาวนายากจนในชนบทจีนเขาตาบอดมาตั้งแต่เด็ก แต่มุ่งมั่นหาทางเรียนจนจบมหาวิทยาลัยแพทย์นานกิง จากนั้นเบนเข็มมาเป็น "ทนายตีนเปล่า" ต่อสู้กับความอยุติธรรม ช่วยเหลือชาวบ้านที่ไม่มีที่พึ่งพาเป็นปากเป็นเสียงให้หญิงตั้งครรภ์ที่ถูกทางการจับทำแท้งด้วยวิธีการโหดเหี้ยมตามนโนบายลูกคนเดียวจนถูกขังคุกและลงท้ายด้วยการถูกกักขัง

เรื่องราวสะเทือนอารมณ์และเป็นแรงบันดาลใจของหนุ่มตาบอดผู้สู้ไม่ถอย สู้กับความยากจน สู้กับระบบสู้กับผู้มีอำนาจ สู้กับอคติของสังคม สู้กับความรักจนได้รับการยกย่องและได้รับรางวัลมากมาย เช่น รางวัลแมคไซไซ รางวัลบุคคลผู้ทรงอิทธิพลแห่งปีของนิตยสารไทมส์ ฯลฯ

คำนำ : ทนายตีนเปล่า THE BAREFOOT LAWYER

อาตมาขอชื่นชมยินีกับการตีพิมพ์อัตชีวประวัติของเฉิน กวงเฉิง เท่าที่ดำเนินมาถึงปัจจุบัน อันเป็นเรื่องที่สมควรนำมาบอกเล่า เพราะมันได้พิสูจน์ชัดแล้วว่าหากมีความแน่วแน่ เชื่อมั่นใจตนเองและความเอื้ออาทรต่อผู้อื่นแล้ว คนเราจะเอาชนะความยากลำบากได้ เฉิน กวงเฉินชนะอุปสรรคอันใหญ่หลวงคือการมองไม่เห็น อคติในสังคม และร่ำเรียนจนสำเร็จการศึกษา นำวิชาความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ทั้งยังช่วยเหลือ ให้คำแนะนำแก่คนยากคนจนในชนบท ผู้ไม่มีใครให้มันหน้าไปพึ่งพาได้

เฉิน กวงเฉิน ชวนให้นึกถึงผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์รุ่นแรกที่อาตมาเคยพบในประเทศจีนเมื่อหกสิบปีก่อน ซึ่งอาตมาประทับใจเป็นอย่างยิ่งในความเป็นห่วงเป็นใยจากใจจริงที่พวกเขามีต่อความสุขสวัสดีของประชาชนคนธรรมดา หลังกิจกรรมตีนเปล่าของเฉิน กวงเฉิน เรียกความสยใจจากผู้มีอำนาจ เขาถูกสอบสวนและถูกคุมขังในข้อหสก่อนความวุ่นวาย เมื่อได้รับการปล่อยตัว เขาก็ได้รู้ว่ากิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันของเขาและครอบครัวถูกเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาตีกรอบล้อมเขต จึงคิดหลบหนีและเขาทำสำเร็จ จากนั้นครอบครัวของเขาก็เริ่มต้นชีวิตใหม่ท่ามกลาวเสรีภาพของประเทศสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตาม เขายังคงสนับสนุนการต่อสู้เพื่อสิทธิของเพื่อน ๆ ของพี่น้องของเขาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเรื่องสิทธิของคนยากจนในชนบท

สารบัญ : ทนายตีนเปล่า THE BAREFOOT LAWYER

• เด็กผู้แปลกแยก
• เติบใหญ่ในธรรมชาติ
• การศึกษาภาคไม่ปกติ
• กลับตัวไม่ได้อีกแล้ว
• ปกป้องสิทธิ์
• รากใหม่
• เปิดโปงความชั่วร้าย
• ลักพาตัว
• การพิจารณาคดีและจำคุก
• ถูกขังที่บ้าน
• หนีสู่อิสรภาพ
• ความสงบชั่วยาม
• ดินแดนแห่งความหวัง
• ชีวิตใหม่

 

รีวิวโดยผู้เขียน : ทนายตีนเปล่า THE BAREFOOT LAWYER

"ทนายตีนเปล่า" เป็นคำที่ใช้เรียกชาวนาในชนบทผู้ศึกษาเล่าเรียนกฏหมายด้วยตัวองและนำความรู้นั้นไปรับใช้ตนเองหรือผู้อื่น เฉิน กวงเฉิง เป็นทนายตีนเปล่าผู้เคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนที่มีชื่อเสียงกระฉ่อนโลก จากเหตุการณ์ที่เขาหลบหนีจากการถูกรัฐคุมขังเอาไว้ในบ้านของตัวเองซึ่งอยู่ในมณฑลซานตง ไปโผล่ที่สถานทูตอเมริกาในปักกิ่ง ทั้งที่ตาบอดและเกิดเป็นกรณีพิพาททางการทูตระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกาในเวลาต่อมา

หนังสือเล่มนี้เราจะได้รู้จักกับเฉิน การเฉินตั้งแต่วัยเด็กได้เห็นวิธีการเรียนรู้โลกที่ทำให้เด็กตาบอดคนหนึ่งเติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ในแบบที่เขาเป็น ได้เห็นโลกทัศน์ของเขาที่ค่อย ๆ ขยับขยายกว้างขวางขึ้นตามเส้นทางชีวิตที่พบเผชิญ ได้เห็นเขาตกหลุมรักและอกหักขากอุดมการณ์ที่เขายึดเหนี่ยวและเชื่อถือหมดใจ

นอกจากนั้นแล้ว ผมเชื่อว่าอีกคุณูปการประการหนึ่งของหนังสือเล่มนี้ที่มองข้ามไม่ได้เลยคือ มันจะช่วยให้คุณผู้อ่านเข้าใจโลกทัศน์และหัวอกของคนตาบอดหรือผู้พิการมากขึ้น และที่สำคัญ อาจเป็นทั้งแรงบันดาลใจและบทเรียนล้ำค่าที่คนตาบอลสามารถเรียนรู้และนำมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตัวเองและดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างเต็มภาคภูมิโดยมีบทบาทของเฉิน กวนเฉิงเป็นแบบอย่าง

ปิยะวัตน์

รีวิวโดยสำนักพิมพ์ : ทนายตีนเปล่า THE BAREFOOT LAWYER

การต่อสู่ของเฉิน กวงเฉิง หนุ่มจีนผู้ปราศจากต้นทุนชีวิตใด ๆ นอกจากความยากจนที่เป็นมรดกมาแต่กำเนิด ทั้งยังพิการทางสายตา เขาต้องต่อสู้กับตัวเองในการเอาชนะอุปสรรคการมองไม่เห็น ต่อสู้เพื่อที่จะได้ศึกษาเล่าเรียน ต่อสู้กับอคติที่สังคมมีต่อคนพิการ ต่อสู้กับผู้มีอำนาจ ต่อสู้กับระบบ ต่อสู้กับความรักต่อกับทุกสิ่งทุกอย่าง และนอกจากต่อสู้เพื่อตัวเองแล้ว เขายังต่อสู้เป็นปากเสียงให้ชาวบ้าน เรียกร้องความยุติธรรมจนถูกกักขัง แต่เขายังสู้ไม่ถอยและหลบหนีออกมาได้จนกลายเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลก เมื่อปี 2015

เป็นอีกชีวิต อีกบทเรียนที่น่าเรียนรู้ ความยุติธรรมและความเสมอภาคนั้นมีค่าอย่างมิอาจประเมินได้และมนุษย์ทุกคนควรได้รับเท่าเทียมกัน

นัยนา รัตนวรรณ

สำนักพิมพ์สันสกฤต