โค้ชชิ่งให้ถึงแก่นด้วยเอ็นเนียแกรม

ผู้เขียน: จินเจอร์ ลาพิด บ็อกดา

สำนักพิมพ์: สยามเอ็นเนียแกรม คอน

หมวดหมู่: จิตวิทยา การพัฒนาตัวเอง , การพัฒนาตัวเอง how to

0 รีวิว เขียนรีวิว

270.00 บาท

300.00 บาท ประหยัด 30.00 บาท (10.00 %)

จำนวนคะแนนที่ได้รับ 10 แต้ม

เอ็นเนียแกรม หรือ นพลักษณ์ คือความรู้ที่อธิบายพฤติกรรมของคน 9 แบบจากแก่นของตัวตน ได้อย่างเป็นระบบ < แสดงน้อยลง เอ็นเนียแกรม หรือ นพลักษณ์ คือความรู้ที่อธิบายพฤติกรรมของคน 9 แบบจากแก่นของตัวตน ได้อย่างเป็นระบบ
  • ส่วนลด:
    ลด 10%
  • โปรโมชั่น:Naiin.com World Book Day ลด 10%*

270.00 บาท

300.00 บาท
300.00 บาท
ประหยัด 30.00 บาท (10.00 %)

จำนวนคะแนนที่ได้รับ 10 แต้ม

จำนวน :

1

  • โปรโมชั่นพิเศษ:
    • Naiin.com World Book Day ช้อปครบ 3 เล่ม ลด 15%*
จำนวนหน้า
342 หน้า
ประเภทสินค้า
ขนาด
14.5 x 20.8 x 2 CM
น้ำหนัก
0.415 KG
บาร์โค้ด
9786169165521

รายละเอียด : โค้ชชิ่งให้ถึงแก่นด้วยเอ็นเนียแกรม

โค้ชชิ่ง ให้ถึงแก่นด้วยเอ็นเนียแกรม ผสมผสานความรู้ที่อธิบายพฤติกรรมของคนได้อย่างลึกซึ้งกับเครื่องมือในการพัฒนาคนอย่างได้ผลเข้าด้วยกัน

เอ็นเนียแกรม หรือ "นพลักษณ์" คือ ความรู้ที่อธิบายพฤติกรรมของคน 9 แบบจากแก่นของตัวตน ได้อย่างเป็นระบบ ละเอียด ลึกซึ้ง และแม่นยำ เพราะอธิบาย "จากภายในสู่ภายนอก" ภายในคือความคิด ความเชื่อ ค่านิยม ทัศนคติ แรงจูงใจ พื้นอารมณ์ เรื่องที่มักกังวล กลไกป้องกันจิตใจ ฯลฯ ส่วนภายนอกคือ พฤติกรรมที่แสดงออก ทั้งในการทำงานและความสัมพันธ์กับผู้อื่น ลองพลิกไปดูหน้าแรกของบทที่ 3 ถึง 11 มีตัวอย่างที่ชัดเจนของสิ่งเหล่านี้

แม้เอ็นเนียแกรมเป็นเรื่องใหม่สำหรับหลายคน แต่ถ้าจะเปรียบเทียบกันนี่เป็นหนังสือเอ็นเนียแกรมเล่มที่ 9 ที่ผมแปล แต่เป็นเล่มแรกเกี่ยวกับโค้ชชิ่งที่มีคนแปลออกมาเป็นภาษาไทย เรารู้จักคำว่าโค้ชกีฬามาก่อน ต่อมาก็ได้ยินคนเรียกตัวเองเป็นโค้ชด้านต่างๆ อย่างไรก็ตาม โค้ชชิ่งในที่นี้มีความหมายต่างจากทั้ง 2 แบบนี้ ดังตัวอย่างต่อไปนี้

ในหนังสือ Coaching Conversations ผู้เขียนบอกว่า โค้ชชิ่งมีการสนทนาเป็นจุดเด่น หัวใจสำคัญคือ การเสวนา (Dialogue) หรือการแลกเปลี่ยนและสำรวจเพื่อให้เข้าใจถึงสิ่งที่เป็นแก่นของเรื่อง เพื่อสะท้อนความเป็นจริง่ที่เป็นอยู่ โดยไม่ตำหนิตัดสิน สิ่งเหล่านี้ จะปลดปล่อยศักยภาพที่จะทำให้โค้ชชิ่ง (ผู้รับการโค้ช) เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ สมาพันธ์โค้ชสากล (ICF) ระบุว่า โค้ชชิ่งคือ การร่วมมือระหว่างโค้ชกับโค้ชชี่ เพื่อให้โค้ชชี่ได้ฉุกคิดและมีแรงบันดาลใจที่จะเพิ่มขีดความสามารถของตนให้มากที่สุด ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับธุรกิจ เพราะสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อน และไม่แน่นอนในปัจจุบันโค้ชต้องมองโค้ชชี่ว่า เป็นผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญในเรื่องของตัวเอง และต้องเชื่อว่า โค้ชชี่มีความคิดสร้างสรรค์ และมีสิ่งดีๆ ในตัวที่จะนำมาใช้ จากหลักาการนี้ หน้าที่ของโค้ชคือ

  • ค้นหาสิ่งที่โค้ชชี่ต้องการบรรลุผลให้ชัดเจน และช่วยเขาไปสู่จุดนั้น
  • สนับสนุนให้เขาค้นพบตัวเอง
  • ให้เขามีความรับผิดชอบต่อตัวเอง

ดังนั้นโค้ชชิ่งจึงไม่ใช่การสอนงาน แนะนำ หรือให้คำปรึกษา แต่เป็นกระบวนการที่มีลักษณะพิเศษ ทั้งโค้ชชิ่งและเอ็นเนียแกรมต่างก็เป็นเรื่องที่มีความลึกซึ้ง มีเนื้อหา และรายละเอียดมาก


คำนำ : โค้ชชิ่งให้ถึงแก่นด้วยเอ็นเนียแกรม

ฤดูร้อนปี 1987 ในวันที่คุณจินเจอร์มาเคาะประตูบ้านนั้น ดิฉันยังไม่รู้เลยว่า คนสุดแสนพิเศษคนหนึ่งกำลังจะก้าวเข้ามาในชีวิต เรามีความสนใจตรงกันหลายเรื่อง ทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว จนกลายเป็นเพื่อนที่คบหากันตลอดมา ณ ตอนนั้นเธอเป็นที่ปรึกษาด้านพัฒนาองค์กร เพิ่งย้ายจากซานฟรานซิสโกมาอยู่ ลอสแองเจิลลิส สมัยนั้นยังไม่มีเฟสบุ๊คหรือลิงค์อิน เพื่อนของเราทั้งคู่แนะนำให้เธอแวะมาหา ดิฉันบอกให้เธอนำรองเท้าที่ใส่เดินได้สะดวกมาด้วย ถ้าอยากจะพูดคุยโดยไม่ถูกรบกวน แล้วนั่นก็เป็นการเริ่มต้นเดินไปด้วยกันเป็นครั้งแรกของเราสองคน ซึ่งตามมาอีกหลายครั้ง เรามักเปิดใจพูดคุยกันในเรื่องต่างๆ ทั้ง เรื่องครอบครัว ความฝัน ชีวิต และความสูญเสีย

ช่วงนั้น ฉันกำลังขยายงานด้านที่ปรึกษาและอบรมเกี่ยวกับการวางแผนอาชีพ และเพิ่งเขียนหนังสือเล่มแรกเสร็จ Up is Not the Only Way โดยใช้เนื้อหา จากวิทยานิพนธ์ซึ่งทำที่ UCLA คุณจินเจอร์ได้ทำงานร่วมกับฉันหลายชิ้นในด้านการพัฒนาอาชีพ และก็เริ่มต้นทำโครงการของเธอเองด้วย ตลาดเวลาดังกล่าว ดิฉันพบว่าเธอช่างสังเกตดีมาก และในเวลาไม่นานฉันก็รู้ว่า เธอจำทุกอย่างทั้งสิ่งที่ดิฉันพูดออกมาและสิ่งที่อยู่ในใจด้วย เธอชื่นชมความสำเร็จของฉันเหมือนเพื่อนคนหนึ่ง บางครั้งที่ฉันทำพลาดไป เธอก็จำบทเรียนเหล่านั้นไว้ใช้ด้วย

คุณจินเจอร์เป็นที่ปรึกษาด้านการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญๆ ขององค์กรที่มีทั้งความชำนาญและความสามารถรอบตัว ดิฉันจึงไม่แปลกใจเลยที่อีกยี่สิบปีต่อมา เธอได้กลายเป็นผู้นำในการนำเอ็นเนียแกรมเข้าสู่องค์กรต่างๆ ทั่วโลกโดยอาศัยใจรักที่มีต่อผู้คนและความรู้ต่างๆ ที่มี เธอเป็นที่ปรึกษามืออาชีพ ที่มีความจริงใจ ซื่อสัตย์ รอบรู้ และแสวงหาแนวทางใหม่ๆ เพื่อนำความรู้กลับมาพัฒนาตนเองและช่วยให้ผู้อื่นได้พัฒนาตนเองเช่นกัน


สารบัญ : โค้ชชิ่งให้ถึงแก่นด้วยเอ็นเนียแกรม

    • โค้ชชิ่งคืออะไร
    • โค้ชชิ่งด้วยเอ็นเนียแกรม
    • โค้ชชิ่งคนเบอร์หนึ่ง
    • โค้ชชิ่งคนเบอร์สอง
    • โค้ชชิ่งคนเบอร์สาม
    • โค้ชชิ่งคนเบอร์สี่
    • โค้ชชิ่งคนเบอร์ห้า
    • โค้ชชิ่งคนเบอร์หก
    • โค้ชชิ่งคนเบอร์เจ็ด
    • โค้ชชิ่งคนเบอร์แปด
    • โค้ชชิ่งคนเบอร์เก้า
    • การเปลี่ยนแปลงตนเอง
    • ประเมินขีดความสามารถในการโค้ชชิ่งของตัวเอง
    • โค้ชชิ่งระยะสั้น
    • โค้ชชิ่งระยะวิกฤติ
    • โค้ชชิ่งระยะยาว

เนื้อหาปกหลัง : โค้ชชิ่งให้ถึงแก่นด้วยเอ็นเนียแกรม

ทุกวันนี้ การให้พนักงานทุกคนได้ทำงานให้เต็มศักยภาพนั้น มีความสำคัญยิ่งกว่าสมัยใด แต่คุณจะมีวิธีใดในการดึงจุดแข็งของแต่ละคนออกมาใช้ ในเมื่อทุกคนมีบุคลิกภาพที่แตกต่างกัน คุณจะสร้างแผนการพัฒนาซึ่งปรับให้เหมาะกับแต่ละคนอย่างไร

คำตอบคือ เอ็นเนียแกรม ความรู้ทางจิตวิทยาที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถช่วยให้คนเราได้เกิดความตระหนักรู้ในตัวเอง และรู้วิธีที่จะติดต่อพูดคุยกับผู้อื่น

โค้ชชิ่ง ให้ถึงแก่น ด้วยเอ็นเนียแกรม เป็นเหมือนพิมพ์เขียวที่ให้รายละเอียดในการใช้ความรู้นี้กับการทำงานในสถานการณ์ต่างๆ หนังสือเล่มนี้ให้แนวทาง 8 ขั้นตอนในการทำโค้ชชิ่งให้ประสบความสำเร็จ ให้คำอธิบายแบบแผนทางความคิด ความรู้สึกและพฤติกรรมของคนเก้าแบบรวมทั้งวิธิในการประยุกต์ขั้นตอนเหล่านั้นกับคนแต่ละแบบ

โค้ชชิ่ง ด้วยเอ็นเนียแกรม ดึงศักยภาพของทุกคนมาใช้เพื่อผลักดันองค์กรให้ประสบความสำเร็จ และเติบโตอย่างแท้จริงและยั่งยืน

รีวิว


0.0
  • 5
    0%
  • 4
    0%
  • 3
    0%
  • 2
    0%
  • 1
    0%
loading