ชีวิตนี้ชะตาลิขิต (ปกแข็ง)

ผู้เขียน: สุเมธ ตันติเวชกุล

สำนักพิมพ์: มูลนิธิชัยพัฒนา

หมวดหมู่: วรรณกรรม , หนังสือคนดัง ประสบการณ์ชีวิต

0 รีวิว เขียนรีวิว

999.00 บาท

จำนวนคะแนนที่ได้รับ 39 แต้ม

999.00 บาท

จำนวนคะแนนที่ได้รับ 39 แต้ม

จำนวน :

1

  • 1
  • 2
  • 3
  • 4
  • 5
  • 6
  • 7
  • 8
  • 9
  • 10
จำนวนหน้า
303 หน้า
ประเภทสินค้า
ขนาด
24.7 x 17.6 x 3 CM
น้ำหนัก
0.99 KG
บาร์โค้ด
9786167989143

รายละเอียด : ชีวิตนี้ชะตาลิขิต (ปกแข็ง)

    "ชะตาชีวิตผมถูกขีดมาอย่างนี้ บางช่วงทุกข์มากมืดมนไปหมด ถึงเวลาก็สว่างของมันเองบทเรียนง่าย ๆ มีเท่านี้ ถึงเวลามันก็สว่าง ถึงเวลามันก็มืดใจเรามันทุรนทุรายนึกว่ามืดไม่มีวันสว่างจริง ๆ ทุกอย่างมันเป็นเวลา จะไปเจอใคร เจออะไรเขาลิขิตมาหมดแล้ว" - ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล -


คำนำ : ชีวิตนี้ชะตาลิขิต (ปกแข็ง)

  ๘๔ ปี หรือ ๗ รอบนักษัต ต้องถือว่าเป็นระยะเวลาที่ยาวนานพอสมควรทีเดียว สำหรับชีวิตของคนคนหนึ่งซึ่งมีเหตุการณ์เกิดขึ้นมากมาย เมื่อมองย้อนกลับไปดู มีหลายแง่มุมที่น่าสนใจ ตื่นเต้นโลดโผนไม่ได้สงบราบเรียบบางเหตุการณ์ที่นำมาเล่าไว้ในหนังสือเล่มนี้ เพื่อหวังใจว่าอาจจะเป็นประโยชน์ต่อคนรุ่นหลัง ได้ใช้เป็นบทเรียนลัดที่สรุปชีวิตผมตลอด ๘๔ ปีชีวิตผมตั้งแต่แรกเกิดจนวัยนี้ คือการได้เรียนรู้อย่างต่อเนื่องไม่รู้จบ บทเรียนชีวิตมีแต่เพิ่มพูนขึ้น ไม่ว่าเราจะอยู่ในสภาพใด ฐานะใด ประสบการณ์สะสมเพิ่มพูนขึ้นทุกวัน ยิ่งเราดำรงชีวิตโดยครองสติ๊ตลอดเวลา ยิ่งเก็บเกี่ยวบทเรียนได้ละเอียดถี่ถ้วนและเป็นประโยชน์มากเท่านั้นอีกด้านหนึ่งก็เห็นว่าชีวิตเป็นสนามรบด้วยเช่นกัน คนเราตั้งแต่ออกจากครรภ์มารดาก็ต้องต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด เผชิญกับการเจ็บไข้ได้ป่วย ต่อสู้เพื่อดำรงสังขาร ต้องแก้ไขปัญหาร้อยแปดพันประการ ไม่ว่าระหว่างรับราชการหรือชีวิตส่วนตัว ต้องต่อสู้กับกามกิเลสต่าง ๆ อย่างไม่ลดละบางครั้งต้องเอาชีวิตเข้าเป็นเดิมพันอย่างไรก็ตาม ไม่ว่าชีวิตจะพลิกผัน หรือมีเส้นทางเป็นอย่างไร สิ่งหนึ่งที่ผมเชื่อคือเรื่องดวง ผมเชื่อว่าแต่ละคนมีดวงชะตาของตัวเอง เหมือนดังชื่อหนังสือเล่มนี้ที่ว่า "ชีวิตนี้ชะตาลิขิต" ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ผมมีชีวิตการศึกษาในวัยเด็กกระท่อนกระแท่น พ่อแม่แยกทางกัน เติบโตมาก็ต้องไปเป็น "นักเรียนนอก" ที่ไม่ได้สุขสบายเลย ต้องระหกระเหินลำบากยากเข็ญหนีภัยท่ามกลางสงครามโลกครั้งที่ ๒ เมื่อเข้ารับราชการอยู่ ๆ ก็ได้ไปวางแผนรับมือสงครามและปฏิบัติงานในสนามรบจริงถึง ๑๑ ปีเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายได้ทุกขณะ

  สิ่งเหล่านี้เมื่อมองย้อนกลับไปล้วนทำให้เราได้รับประสบการณ์กว้างขวางที่น้อยคนจะมีโอกาสได้รับ แล้ววันหนึ่งก็โชคดีอย่างที่สุดในชีวิตที่ได้ถวายงานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ได้เป็นนักเรียนของพระองค์ท่านยาวนานถึง ๓๕ ปีทั้งหมดนี้ผมไม่ได้แสวงหา แต่ชีวิตลิขิตมาอย่างนี้ฟรองซัว เดอ ลาโรชฟูโกต์ นักปรัชญาและนักเขียนชาวฝรั่งเศส เคยกล่าวไว้ว่า "Le moi est haissable" แปลว่า "อัตตาเป็นของน่ารังเกียจ"การกล่าวขวัญถึงตนเองเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง แต่การเล่าเรื่องในหนังสือเล่มนี้ ผมได้ตั้งเจตนารมณ์ไว้ว่า จะเล่าทั้งเรื่องดีและเรื่องร้ายที่ย่างกรายเข้ามาในชีวิตโดยไม่ปิดบังอำพราง ทุกสิ่งที่เคยเผชิญมาเมื่อถึงอายุ ๘๔ ปีล้วนเป็นเพียงฉากหนึ่งของชีวิตเท่านั้น ชีวิตเราก็เหมือนภาพยนตร์เรื่องหนึ่งดูจบแล้วก็แค่นี้ เหลือค้างแค่ว่าคนดูได้รับบทเรียนอะไรจากหนังเรื่องนี้ผมอยากให้หนังสือเล่มนี้บอกเล่าเรื่องราวที่เด็กสมัยนี้จะไม่มีโอกาสได้เรียนจากใครทั้งสิ้น และไม่ได้มีแค่ด้านที่ประสบความสำเร็จเพียงอย่างเดียว จึงสรูปบทเรียนท้ายรอบนักษัตรไว้ในแต่ละบทเพื่อเป็นแนวทางเป็นพลังใจ เป็นแรงผลักดัน เป็นประโยชน์ รวมถึงอาจจะเป็นกำลังใจในการใช้ชีวิตของคนที่ได้อ่านต่อไปไม่มากก็น้อย   ดร.สุเมธ ตันติเวชกุลกรรมการและเลขาธิการ มูลนิธิชัยพัฒนา

รีวิว


0.0
  • 5
    0%
  • 4
    0%
  • 3
    0%
  • 2
    0%
  • 1
    0%
loading