พลังของการบอกใบ้ (พิมพ์ครั้งที่ 2)

ผู้เขียน: เฉิน ซู่ เจวียน

สำนักพิมพ์: วารา

หมวดหมู่: แม่และเด็ก , คู่มือดูแลครรภ์ การเลี้ยงดูเด็ก

0 รีวิว เขียนรีวิว

355.50 บาท

395.00 บาท ประหยัด 39.50 บาท (10.00 %)

จำนวนคะแนนที่ได้รับ 14 แต้ม

  • ส่วนลด:
    ลด 10%
  • โปรโมชั่น:Naiin.com World Book Day ลด 10%*

Tags: พลังของการบอกใบ้ , วาราผู้แต่งเฉิน ซู่ เจวียน , แม่และเด็ก , การเลี้ยงดูเด็ก , ครอบครัว , คู่มือการเลี้ยงลูก

355.50 บาท

395.00 บาท
395.00 บาท
ประหยัด 39.50 บาท (10.00 %)

จำนวนคะแนนที่ได้รับ 14 แต้ม

จำนวน :

1

  • 1
  • 2
  • 3
  • 4
  • 5
  • 6
  • 7
  • 8
  • 9
  • 10
  • โปรโมชั่นพิเศษ:
    • Naiin.com World Book Day ช้อปครบ 3 เล่ม ลด 15%*
    • Naiin.com World Book Day ช้อปครบ 5 เล่ม ลด 20%*
จำนวนหน้า
440 หน้า
ประเภทสินค้า
ขนาด
0 x 0 x 0 CM
น้ำหนัก
0.535 KG
บาร์โค้ด
9786168335147

รายละเอียด : พลังของการบอกใบ้ (พิมพ์ครั้งที่ 2)

   พลังของการบอกใบ้ “พ่อแม่ที่มีความสุขเท่านั้น จึงจะทำให้ลูกมีความสุข” 100 วิธีการบอกใบ้ที่จะช่วยให้ลูกอารมณ์ดี มีความมั่นใจ และประสบความสำเร็จไปตลอดชีวิต ครั้งหนึ่งได้มีการจัดการประชุมผู้ปกครองของเด็ก ๆ เราได้จัดให้พ่อ แม่เล่นเกมจิตวิทยา : “การประมูลที่มีคุณค่า” นั่นก็คือ ถ้าคุณมีเงินอยู่ 5,000 หยวนในมือ เงินจํานวนนี้แสดงถึงเวลาของทั้งชีวิต และพลังของคนหนึ่งคน คุณสามารถกําหนดตามความเข้าใจและการศึกษาของแต่ละครอบครัว เพื่อใช้เงินจํานวนนี้ในการประมูลสินค้า โดยทุกอย่างมีมูลค่าที่กําหนดไว้ และทุกครั้งที่ประมูลต้องเพิ่มเงินขั้นต่ำจํานวน 500 หยวนต่อการประมูล ในแต่ละครั้ง ใครที่ให้ราคาสูงที่สุดก็จะได้รับสินค้าไป และถ้าใครประมูลที่ 5,000 หยวนเลย คนนั้นก็จะชนะการประมูลทันที สินค้าที่จัดให้สําหรับการประมูลมีดังนี้ 1. ตําแหน่งหน้าที่การงานในอนาคตของลูก 2. การมีอิสระอย่างเต็มที่ของลูก 3. ความรัก ความเห็นอกเห็นใจของเด็กที่มีต่อสังคม 4. เวลาในการอยู่ด้วยกันกับลูก 5. การเชื่อฟังของลูกที่มีต่อพ่อแม่ 6. การมีสุขภาพที่ดีและการมีความสุขของลูก 7. ในอนาคตลูกได้เข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยชื่อดัง 8. ความมั่นใจในตนเองและพยายามพัฒนาตัวเองอยู่เสมอของลูก...สุดท้ายแล้วสินค้าที่พ่อแม่ส่วนใหญ่เลือกนั่นก็คือ.“การมีสุขภาพที่ดีและการมีความสุขของเด็ก” กับ “ความมั่นใจในตนเอง และพยายามพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ” โบราณว่าไว้ พ่อแม่เป็นแบบไหนลูกก็เป็นแบบนั้น เรื่องนี้ก็ยังคงเป็นเรื่องจริง ที่เกิดขึ้นอยู่เสมอ ในการศึกษาจิตวิทยาลูกสาวส่วนใหญ่จะเลียนแบบแม่ของเธอ ส่วนลูกชายก็จะเลียนแบบตามพ่อ ทุกอย่างที่พ่อแม่ปฏิบัติลูก ๆ จะค่อย ๆ ซึมซับ พฤติกรรมเหล่านั้นของพ่อแม่ตลอดการเจริญเติบโต ลูกจะเรียนรู้มาจากการกระทําของพ่อแม่เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการวางตัวในสังคม การปฏิบัติตัวต่อคนรอบข้าง จากการศึกษาค้นคว้าในต่างประเทศพบว่า 90% ของเด็กจะมีคุณภาพได้ขนาดไหน นั้นขึ้นอยู่กับพ่อแม่ ความรู้ความสามารถของพ่อแม่และรูปแบบการเลี้ยงดูเป็นสิ่งสําคัญ สิ่งเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่ออนาคตของเด็กไปจนตลอดชีวิต พ่อแม่ส่วนมากมักจะใช้คําว่า “รัก” ในการควบคุมลูกเพื่อให้ทําตามในสิ่งที่ตัวเองต้องการและคิดว่าถูกต้อง พ่อแม่มักจะใช้อํานาจบังคับให้ลูกทําตามคําสั่งหรือข่มขู่ดุว่าลูกเวลาพวกเขาทําผิดและพยายามให้เหตุผลมากมายโดยคิดว่าลูกนั้นจะเข้าใจ พ่อแม่คิดว่าการกระทําแบบนี้คือการให้ความรักและหวังว่าลูกจะปฏิบัติตามและเปลี่ยนแปลงตนเองอย่างที่พ่อแม่อยากให้เป็น สุดท้ายแล้วกลับกลายเป็นว่าเด็กเกิดการต่อต้านพ่อแม่ หลังจากนั้นจึงทําให้ต้องกลับมาคิดว่าแท้จริงแล้วเราควรจะอบรมสั่งสอนลูกอย่างไรให้เขาเติบโตขึ้นมาเป็น คนที่มีคุณภาพ นักศึกษาศาสตร์ ซู ฮั่ว หมู่ ลิงสกีย์ เคยกล่าวไว้ว่า : ทุกครั้งที่ต้องการสอนเด็กเราต้องทําให้เขา ไม่รู้สึกว่าเขากําลังถูกสอนอยู่ ยิ่งเด็กรู้สึกว่าเขาไม่ได้กําลังถูกสั่งสอน เด็กก็จะยิ่งได้รับการเรียนรู้มากที่สุด วิธีการสอนเด็กโดยใช้ “ พลังของการบอกใบ้ ” จึงเป็นวิธีที่ได้ผลที่สุด เด็กที่อยู่ในช่วงอายุ 0-13 ปี เป็นช่วงเวลาที่สําคัญที่สุด เด็กในช่วงวัยนี้จะ มีการเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว พ่อแม่อยากให้เขาเติบโตขึ้นมาเป็นแบบไหนก็สามารถ สร้างได้ตั้งแต่วัยนี้ เด็กจะสามารถเข้าถึงการสั่งสอนได้ง่ายกว่า การกระทําคําพูดต่าง ๆ ของพ่อแม่ไม่ว่าจะเกิดขึ้นโดยตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจนั้นจะกลายเป็นวิธีการสั่งสอนในรูปแบบ “ พลังของการบอกใบ้ ” อย่างชัดเจนที่สุดสําหรับเด็ก ในการศึกษาทางด้านจิตวิทยา การบอกใบ้ เป็นการสื่อสารทางอ้อมที่จะสามารถบอกให้ผู้รับสารทําตามอย่างที่เราต้องการได้ ความพิเศษที่สุดสําหรับ “การบอกใบ้” คือเด็กจะสามารถเรียนรู้ได้โดยไม่ได้รู้สึกว่าพวกเขากําลังถูกสอนอยู่ การบอกใบ้เชิงบวกในการอบรมเด็กจะทำให้เด็กมีความมั่นใจในตนเอง มีความพยายามและตั้งใจในการทําสิ่งต่าง ๆ เด็กจะสามารถซึมซับ ความรู้และรับคําแนะนําได้ดีขึ้น ทําให้เขาเติบโตเป็นคนที่มีพลังบวก มองโลกในแง่ดี สิ่งเหล่านี้จะส่งผลกระทบที่ดีให้กับเด็กไปจนตลอดชีวิต....

รีวิว


0.0
  • 5
    0%
  • 4
    0%
  • 3
    0%
  • 2
    0%
  • 1
    0%
loading