รายละเอียด : ปีนี้ไม่อยากโสด Turning Thirty

ปีนี้ไม่อยากโสด Turning Thirty

เรื่องเป็นอย่างนี้ครับ นานเหลือเกินแล้วที่ผม นายแมท เบคฟอร์ด เฝ้ารอวันที่จะอายุสามสิบ จากนั้นด้วยศักดิ์และสิทธิ์แห่งวัยสามสิบ ผมจะได้เป็นเจ้าของชั้นวางไวน์ที่มีไวน์วางไว้จริงๆ เสียที คิดว่าผมเหมือนจะทะเยอทะยานต่ำไปนิดใช่ไหมครับ ก็อาจเป็นอย่างที่คุณคิดนั่นล่ะ แต่จะว่าไป ตัวคุณก็ไม่ใช่ตัวผมนี่ จะบอกอะไรให้ว่าเมื่อมีไวน์สักขวดเข้ามาปรากฏในโลกของนายแมท มันจะถูกบริโภทจนเกลี้ยงไปภายในเวลาตั้งแต่ยีสิบนาที ไปจนถึงยี่สิบสี่ชั่วโมง ไม่ใช่เพราะผมเป็นพวกสิงห์สุราเรื้อรังหรอกนะ แต่เพราะความรักในรสชาติของไวน์ ผนวกกับความด้อยสามารถในการควบคุมตนเองด้วยประการทั้งปวงต่างหาก ที่พูดมาตั้งยืดยาวนี้ก็เพื่อจะบอกว่า เจ้าชั้นไวน์น่ะเขาออกแบบมาเพื่อวางไวน์มากกว่าหนึ่งขวดไงเล่า บางชั้นบรรจุหกขวด บางชั้นบรรจุสิบสองขวด แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นครับ คำถามสำคัญมันอยู่ตรงนี้ 1.ใครกันที่จะมีสตางค์ซื้อไวน์ได้ทีละเป็นโหล 2.แล้วใครกัน จะสามารถถอดใจไม่ดื่มทั้งสิบสองขวดนั่นจนเกลี้ยงในคราวเดียว เมื่อกลับจากการทำงานอันเหนื่อยหนักทั้งวัน 3.แล้วใครกันที่คิดว่า ชั้นไวน์ช่างเป็นความคิดที่เข้าท่าเสียจริง คำตอบของข้อ 3 จะว่าไป ของทั้งข้อ 2 และ 1 ด้วยแน่นอนว่าคือพวก "มนุษย์สามสิบ" นั่นเอง สามสิบอัพ สามสิบยังแจ๋ว พวกที่เคยยี่สิบแต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยจะยี่สิบเท่าไรแล้ว แล้วแต่จะเรียกกันไป สรุปคือวัยอย่างผมนี่แหละ คนประเภทที่ดิ้นรน กระเหม็ดกระแหม่ เก็บหอมรอมริบมาตลอดช่วงยี่สิบปี เพื่อที่วันหนึ่งในอนาคตจะได้สามารถซื้อไวน์ได้ที่ละหลายๆ ขวด ประดับไว้บนชั้นวางอย่างหรู ที่ตั้งอยู่ในห้องครัวอย่างหรุ แล้วก็ ตั้งโชว์ไว้อย่างนั้น ไม่ได้ดื่ม คือหมายถึงไม่ได้ดื่มแบบดวดทีเดียวหมดน่ะครับ แต่เราแค่อยากจะตั้งไว้อวดขชาวบ้านว่า หลังจากหลายปีผ่านไปในที่สุด เราก็เริ่มรู้จักบันยะบันยังกับเขาบ้างแล้ว แถมยังรู้จักสรรหาสิ่งดีๆ ให้กับชีวิต ดูเป็นผู้ใหญ่ดีจะตายไป

เนื้อหาปกหลัง : ปีนี้ไม่อยากโสด Turning Thirty

"เป็นมุมมองของการแก่ตัวที่แสนจะสดใส" (หนังสือพิมพ์การ์เดียน) แมท เบคฟอร์ด บอกตัวเองว่าการย่างสามสิบไม่มีอะไรน่ากลัวเขามีคนรักแสนดีและการงานยอดเยี่ยม แต่แล้วทุกอย่างก็พังลง ในเวลาอีกเพียงหกเดือนก่อนถึงวันเกิดในปีสำคัญ หลังจากสติแตกอย่างอ่อนๆ แมทตัดสินใจกลับบ้านเกิดที่อังกฤษเพื่อหลบหลีกแผลใจและตั้งหลักกับชีวิต ก่อนจะได้ซึ่งว่าการย้ายกลับเข้าไปอยู่ใต้หลังคาเดียวกับพ่อแม่นั้นทำเขาแทบเสียจริต อย่างไรก็ตาม แมทพบว่าการได้กลับไปเจอเพื่อนเก่าทำให้เขาสามารถนำความรู้สึกหอมหวานของอดีต กลับมาเยียวยาความเจ็บปวดของปัจจุบันได้อย่างไม่น่าเชื่อ เขากลับไปแอบกิ๊กกับสาวที่ยังไม่เคยได้ลงเอยกันเสียที และมองหาเพื่อนแก๊งเก่าเจ็ดคนที่สาปสูญจากชีวิตของกันและกันไปแสนนาน ด้วยความหวังว่าพลังแห่งนอสตัลเจียนี้จะช่วยปรับสมดุลให้ชีวิตกลับมาดีงามตามปกติ แต่แน่นอนว่าหลายครั้งที่เราคาดหวังกับชีวิต ชีวิตจะทำให้เราผิดหวัง หรืออย่างน้อยก็ทำให้เราประหลาดใจ ครุ่นคิด ขำขัน และอุ่นหัวใจ ไปกับนวนิยายโรแมนติกคอเมดี้ร่วมสมัยสำหรับใครก็ตามที่กำลังอยู่ตรงหัวเลี้ยวหัวต่อของช่วงใดก็ตามในชีวิต