s

ถ้าโลกนี้ไม่มีแมว If Cats Disappeared from the World

ผู้เขียน: Genki Kawamura

สำนักพิมพ์: Maxx Publishing

หมวดหมู่: นิยาย , นิยายแฟนตาซี

6 รีวิว เขียนรีวิว

220.15 บาท

259.00 บาท ประหยัด 38.85 บาท (15.00 %)

จำนวนคะแนนที่ได้รับ 8 แต้ม

โลกที่ปราศจากแมวจะเป็นเช่นใด ชีวิตจะเหลืออะไร ถ้าสิ่งที่สำคัญสูญสิ้นไปหมดแล้ว นี่คือเรื่องราวที่บอกเล่าถึงคุณค่าของการมีขีวิตอย่างเรียบง่าย < แสดงน้อยลง โลกที่ปราศจากแมวจะเป็นเช่นใด ชีวิตจะเหลืออะไร ถ้าสิ่งที่สำคัญสูญสิ้นไปหมดแล้ว นี่คือเรื่องราวที่บอกเล่าถึงคุณค่าของการมีขีวิตอย่างเรียบง่าย
  • ส่วนลด:
    ลด 15%
  • โปรโมชั่น:Naiin.com Top Up Mid-Month Sale! ลด 15%

220.15 บาท

259.00 บาท
259.00 บาท
ประหยัด 38.85 บาท (15.00 %)

จำนวนคะแนนที่ได้รับ 8 แต้ม

จำนวน :

1

จำนวนหน้า
221 หน้า
ประเภทสินค้า
ขนาด
12.5 x 19.5 x 1.4 CM
น้ำหนัก
0.23 KG
บาร์โค้ด
9786163710499

รายละเอียด : ถ้าโลกนี้ไม่มีแมว If Cats Disappeared from the World

ถ้าโลกนี้ไม่มีแมว โลกจะเปลี่ยนไปอย่างไร แล้วชีวิตของผมจะเปลี่ยนไปยังไงกันนะ ถ้าโลกนี้ไม่มีผม โลกก็จะเป็นเช่นเดิม วันพรุ่งนี้ก็จะดำเนินต่อไปเหมือนเดิมหรือเปล่า คุณอาจจะคิดว่า ผมกำลังละเมออะไรอยู่ แต่อยากให้เชื่อเถอะว่า เรื่องที่กำลังจะเขียนต่อจากนี้ เกิดขึ้นกับผมจริง ในช่วงเจ็ดวันที่ผ่านมา เป็นเจ็ดวันที่แปลกประหลาดเหลือเกิน ผมกำลังจะตายลงในไม่ช้า มันเกิดขี้นได้ยังไงกันนะ ผมจะเขียนเล่าที่มาของเรื่องนี้ด้วย มันต้องเป็นจดหมายที่ยาวมากแน่ๆ แต่อยากให้อ่านจนจบ และนี่จะเป็นจดหมายฉบับแรกและฉบับเดียวที่ผมจะเขียนถึงคุณ ใช่แล้ว นีคือ พินัยกรรมของผม

สิ่งที่อยากทำก่อนตายของผม มีไม่ถึงสิบอย่างด้วยซ้ำ ในหนังที่เคยดู ก่อนตายตัวเอกจะเขียนรายการสิบอย่างที่อยากทำก่อนตาย นั่นมันเรื่องโกหกทั้งเพ ไม่สิ จะว่าโกหกก็ไม่ได้ แต่ไอ้รายการที่ว่านั่น รับรองมีแต่เรื่องไร้สาระทั้งนั้น หืม? ทำไมคิดแบบนั่นน่ะเหรอ? ก็แหม จะว่ายังไงดีล่ะ ผมก็ลองทำดูแล้วเหมือนกันน่ะสิ ไอ้ลิสต์สิบอย่างที่ว่านั่น น่าอายเหมือนกันนะ

เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อเจ็ดวันก่อน ผมเป็นหวัดติดต่อกันหลายวัน แต่ก็ยังไปทำงานส่งไปรษณีย์ตามปกติ มีไข้ต่ำๆ ไม่ยอมหาย หัวด้านขวาปวดจี๊ดๆ ตลอด ได้ยาจากร้านขายยาพอมาบรรเทาอาการไปได้ประมาณหนึ่ง (เป็นที่รู้กันว่าผมเกลียดการไปหาหมอสุดๆ) แต่ผ่านไปสองสัปดาห์ก็ยังไม่หายสักที ผมจึงตัดสินใจไปหาหมอในที่สุด เลยรู้ว่าไม่ใช่หวัดแฮะ เนื้องอกในสมอง ระยะที่ 4

นั่นคือผลการตรวจวินิจฉัยที่หมอบอกกับผม น่าจะอยู่ได้อย่างมากอีกสักครึ่งปี หรืออาจจะอีกแค่ไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ก็เป็นไปได้ หมอแนะนำการฉายรังสี การใช้ยาต้านมะเร็ง การดูแลแบบประคับประคองในระยะสุดท้ายของชีวิต และวิธีต่างๆ นานา แต่มันไม่เข้าหูผมเลย ตอนเด็กๆ ผมไปว่ายน้ำในสระสีฟ้า น้ำเย็นเฉียบนั้น ตูมร่างผมจมลงไป

"อบอุ่นร่างกายให้ดีก่อนสิ" เสียงของแม่จะตามมา แต่พออยู่ใต้น้ำแล้ว ก็ได้ยินแค่แว่วๆ ไม่ชัดเจน "เสียงในความทรงจำ" แบบนั้นแหละที่ผมนึกถึงขึ้นมา การตรวจวินิจฉัยอันยาวนานสิ้นสุดลง หมอยังพูดไม่ทันจบดี ผมก็ทำกระเป๋าร่วงลงพื้น พลันวิ่งออกจากห้องตรวจ โดยไม่สนเสียงหมอเรียกแม้แต่น้อย

ผมตะโกนสุดเสียงขณะกระโจนออกจากห้อง ชนกับคนที่เดินสวนมาจนล้มลงไปกลิ้งบนพื้น แต่ก็ยังลุกขึ้นมาวิ่งต่อ ปล่อยแขนขาแกว่งกวัดอย่างไม่อายใครทั้งนั้น วิ่งไปเรื่อยๆ จนไปหมดแรงขยับไม่ไหวที่ตีนสะพานแห่งนึง แต่ก็ยังคลานพลางกรีดร้องต่อไป ที่ว่ามานี่ไม่ได้มีอะไรแบบนั้นหรอก

เวลาแบบนี้ต่างหากที่คนเรามักจะนิ่งได้อย่างไม่น่าเชื่อสิ่งที่ผมฉุกคิดขึ้นมากลับเป็นเรื่องไร้สาระอย่างการ์ดสะสมแต้มร้านนวดแถวบ้านที่ขาดอีกแต้มเดียวก็จะครบได้ใช้บริการฟรีแล้วแท้ๆ หรือเสียดายทิชชู่กับผงซักฟอกที่เพิ่งซื้อมาซะเพียบอะไรแบบนี้

แต่ความเศร้ามันก็คืบคลานมาถึงในที่สุด ผมเพิ่งอายุสามสิบ อยู่มานานกว่าจิมมี เฮนดริกซ์ หรือบาสเกีย แล้วก็จริง แต่ก็ยังมีอะไรที่อยากทำอีกเยอะ มันต้องมีอะไรที่มีแต่ผมเท่านั้นที่ทำได้ในโลกนี้บ้างสิ ขณะเดินเหม่อไป แต่ก็ยังนึกไม่ออกไป ผมเดินผ่านกลุ่มวัยรุ่นถือกีต้าร์โปร่งสองคนหน้าสถานีรถไฟ กำลังร้องเพลงสุดเสียงกันอยู่

"ชีวิตนี้ไม่รู้จะจบเมื่อไหร่ ก่อนที่วันสุดท้ายจะมาถึง จะทำ ขอทำ ทุ่มเททำให้สุดหัวใจ สู้ต่อไปเพื่อพรุ่งนี้"


เนื้อหาปกหลัง : ถ้าโลกนี้ไม่มีแมว If Cats Disappeared from the World

ถ้าแมวหายไปจากโลกนี้ แล้วจะเกิดอะไรขึ้นนะ? เรื่องของบุรุษไปรณีย์หนุ่มวัย 30 ปี ที่ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยไม่มีอะไรหวือหวา ชีวิตของเขามีเพียงแมวอย่างเจ้า "กะหล่ำ" เป็นเพี่อนเท่านั้น แต่แล้วจู่ๆ เขาก็รู้ว่าตนเองป่วยเป็นโรคร้าย กำลังจะตายภายในเวลาไม่กี่เดือน

และเรื่องสุดเหลือเชื่อก็บังเกิด เมื่อ "ปีศาจ" ตนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นโดยยื่นข้อเสนอให้เขายอมแลกสิ่งต่างๆ ในชีวิตที่จะหายจากโลกนี้ไปทีละอย่าง กับการต่อลมหายใจได้กับเขาเพิ่มไปทีละวัน ชายหนุ่มตอบตกลง โดยลืมคิดไปว่าสิ่งสุดท้ายที่จะหายไปจากโลกนี้คือสิ่งที่เขารักมากที่สุด

โลกที่ปราศจากแมวจะเป็นเช่นใด? ชีวิตจะเหลืออะไร ถ้าสิ่งที่สำคัญสูญสิ้นไปหมดแล้ว? นี่คือเรื่องรสวที่บอกเล่าถึงคุณค่า ของการมีชีวิตอย่างเรียบง่าย แต่ส่งแรงสั่นสะเทือนถึงหัวใจของผู้คน ไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่รักแมวหรือไม่ก็ตาม



รีวิวโดยสำนักพิมพ์ : ถ้าโลกนี้ไม่มีแมว If Cats Disappeared from the World

จากชื่อหนังสือ (Sekai kara Neko ga Kietanara) หรือ "ถ้าโลกนี้ไม่มีแมว" หลายคนอาจคิดว่านิยายเล่มนี้คงเป็นเรื่องราวเมโลดรามาของคนรักแมว ทาสแมว อะไรทำนองนั้น ซึ่งก็ถูกครับ หนังสือเล่มนี้เป็นอย่างนั้นเลยล่ะ คนที่กำลังเลี้ยงแมวอยู่หรือเคยเลี้ยงแมวมาก่อน หากได้อ่นไปจนถึงกลางเรื่องอาจมีน้ำตาซึม บางรายน่าจะถึงขั้นปล่อยโฮออกมาเลย เพราะรายละเอียดบางอย่างที่ผู้เขียนได้ถ่ายทอดไว้มันช่างทรมานใจคนเลี้ยงแมวจริงๆ

อาจเป็นเพราะญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ค่อนข้างจะผูกพันกับแมวมากถึงได้เก่งในการบรรยายให้เห็นได้ว่าภาวะใจสลายของคนที่มีแมวและกำลังจะสูญเสียไปนั้นมันรุนแรงเพียงใด แต่อีกด้านหนึ่ง นิยานเล่มนี้ก็มีอะไรมากกว่าเรื่องแมวอยู่มาก เพราะแก่นแกนของเรื่องก็พูดถึงชีวิตในระดับที่หนักหนาอยู่พอสมควร เรื่องของความตาย ครอบครัว ความรัก หรือเรื่องของสิ่งแวดล้อมต่างๆ ที่สำคัญในชีวิต

เหมือนจะบอกเล่าด้วยท่าทีที่ไม่จริงจัง เหมือนจะไม่มีอะไรให้ขบคิด แต่พออ่านจนจบกลับรู้สึกถึงความหนักอึ้งเล็กๆ พอให้เก็บไปทบทวนตัวเองว่า วันนี้เราได้ทำในสิ่งที่มีความหมายไปบ้างแล้วหรือยัง

นิยายเล็กๆ เล่มนี้ จึงไม่ใช่เรื่องของคนที่รักแมว และไม่อยากเสียแมวไปเพียงเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของคนที่ไม่รักชีวิตในความหมายของการใช้ชีวิต และกำลังจะต้องทนดูตัวเองเสียคุณค่าเหล่านั้นไป จึงได้รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญของการมีชีวิตแบบมนุษย์จริงๆ และบางทีเราอาจถูกำหนดให้เรียนรู้ประสบการณ์นี้จากแมว

เกงคิ คาวามุระ อาจจะไม่ใช่นักเขียนที่ผลิตงานในแนวทางวรรณกรรม แบบที่เราคุ้นเคยจากผลงานของนักเขียนญี่ปุ่นท่านอื่นๆ ด้วยพื้นฐานของการเป็นโปรดิวเซอร์ภาพยนตร์ ความคิดในหัวของเขาจึงกลั่นออกมาเป็นภาพผ่านตัวอักษรได้ อย่างชัดเจนซึ่งไม่แปลกใจเลยที่นิยายเล่มนี้จะถูกพัฒนาต่อไปเป็นหนังสือสุดฮิตอย่าง "If Cats Disappeared World" ได้อย่างน่าติดตาม แม้เขาจะไม่ได้ทำหนังเรื่องนี้เอง แต่สิ่งที่เขาเล่าผ่านนิยายก็ชวนให้เราเห็นภาพตามไม่ต่างไปจากชมภาพยนตร์จริงๆ เลย ที่น่าทึ่งคือนิยายเล่มนี้ของเขามีจุดเริ่มต้นมา จากเรื่องเล่าที่เป็นข้อความส่งต่อกันใน LINE แอพพลิเคชั่น สนทนาที่ฮิตสุดๆ (และนับว้าเป็นนิยาย LINE เรื่องแรกอีกด้วย) ก่อนจะได้รับการตีพิมพ์รวมเล่มในปี ค.ศ.2012 จนทำยอดขายได้กว่า 1.3 ล้านเล่ม เข้าชิงรางวัล Bookstore's Grand Prix ได้รับการดัดแปลงเป็นละครวิทยุในปี ค.ศ.2013 ถูกทำเป็นมังงะในนิตยสาร Hana to Yume ในปี ค.ศ.2015 และล่าสุดก็ถูกด้ดแปลงเป็นภาพยนตร์ "If Cats Disapeared from the World" ในปี ค.ศ.2016 และหนังก็ยังได้ อาโอมิ มิยาซากิ นางเอกชื่อดังกับ ทาเครุ ซาโต้ ขวัญใจสาวๆ ในบ้านเรามานำแสดงนั่นเอง

ด้วยวัยเพียง 37 ปี เกงคิ คาวามุระ จึงเป็นนักเขียนที่เป็นผลผลิตของวัฒนธรรมร่วมสมัยที่สะท้อนให้เห็นว่าคนอ่านในยุคของเขากำลังค้นหาอะไรในชีวิต และคาวามุระก็ถ่ายทอดมันออกมาได้อย่างซื่อตรง เขาจึงเป็นนักเขียนญี่ปุ่นอีกคนหนึ่งคนที่น่าติดตามจริงๆ

รีวิว


4.7
6 รีวิว
  • 5
    67 %
  • 4
    33 %
  • 3
    0%
  • 2
    0%
  • 1
    0%
loading