เรียนการบริหาร และการตลาด

จากธุรกิจแบรนด์ดัง l Naiin Booktalk
หนังสือแนะนำ

                    หลายคนใฝ่ฝันอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง แต่การเปิดธุรกิจมันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เริ่มจากคำถามแรกที่ต้องถามตัวเองก่อนคือ ธุรกิจเราจะขายอะไร? แค่คำถามนี้คงใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะคิดออก พอได้เริ่มทำธุรกิจเป็นรูปเป็นร่างแล้ว ทีนี้เราก็ต้องมากำหนดทิศทาง กลยุทธ์ในการทำธุรกิจขั้นต่อไป หลายธุรกิจอาจจะเริ่มไม่ถูก ก็นี้มันยุคไทยแลด์ 4.0 แล้วนิครับ อะไรก็ไปไวมาก คนเราเบื่อง่ายด้วย สังเกตได้จากเกมส์บนมือถืออย่าง Cookie Run, เกมเศรษฐี หรือ Pokemon ที่เป็นกระแสอยู่เพียงชั่วข้ามเดือน หลังจากกระแสค่อยๆ จางลง คนก็หันไปให้ความสนใจกับความแปลกใหม่อย่างอื่นมากกว่าแล้ว

“การจะทำแบรนด์ให้ปัง สิ่งสำคัญไม่ใช่แค่ไอเดียที่คุณจะขาย แต่คุณต้องหา
กลุ่มลูกค้าคนที่คุณต้องการจะขายให้เจอเสียก่อน 
ไม่อยากงมเข็มในมหาสมุทร คุณต้องทำการบ้านเยอะๆ เชียวละ

หนังสือแนะนำ

                    ถ้าเพื่อนๆ ยังไม่รู้ ว่าจะเริ่มทำธุรกิจจากตรงไหน Naiin Booktalk ขอให้เริ่มจาก “อ่าน” ก่อนเลยครับ เพราะการอ่านอาจจะจุดประกายความคิดดีๆ หรือสร้างแนวทางให้เราได้ วันนี้ Naiin Booktalk มีหนังสือ How to มาแนะนำ ให้เพื่อนๆ ที่กำลังสนใจอยากศึกษา หรือมองหาแนวทางในการต่อยอดธุรกิจ โดยแต่ละเล่มเขียนถึง แบรนด์ดังระดับโลก จุดเริ่มต้น กลยุทธ์ แนวทาง ยุทธศาสตร์ ของแบรนด์ดังระดับโลก เริ่ม “อ่าน” กันเลยนะครับ  จะได้เอาไปปรับใช้กับธุรกิจของเพื่อนๆ กันได้
พรเจ้าอยู่ในรายละเอียด

ชื่อหนังสือ : พระเจ้าอยู่ในรายละเอียด

แบรนด์ที่กล่าวถึง :   MUJI มูจิ
ผลิตภัณฑ์ : เครื่องใช้ภายในบ้าน, แฟชั่น, เครื่องเขียน, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, เครื่องสำอาง, อาหาร, เครื่องเรือน
สำนักพิมพ์ : Shortcut
ราคา : 195 บาท
ผู้แต่ง : Tadamitsu Matsui
ผู้แปล : ธาลินี โพธิ์อุบล

“เรื่องเรียบง่ายและปฏิบัติได้อย่างง่ายดาย จะทำให้บริษัทแข่งแกร่งขึ้น”
-ส่วนหนึ่งจากหนังสือ พระเจ้าอยู่ในรายละเอียด MUJI-

                    จุดเริ่มต้นของแบรนด์ MUJI (มูจิ) ถือกำเนิดที่ประเทศญี่ปุ่น ในปี 1980 ในช่วงวิกฤติธุรกิจค้าปลีก ห้างสรรพสินค้าต่างแข่งขันกันโดยตัดราคาสินค้า แน่นอนว่ากลยุทธ์นี้แทบไม่ทำกำไรให้เลย จึงทำให้ต้องลดต้นทุนในการผลิต ทำให้คุณภาพสินค้าด้อยลง ประธานห้างสรรพสินค้า Seiyu เกิดไอเดียผลิตสินค้า House Brand ที่มุ่งเน้นคุณภาพ โดยหลักการออกแบบสินค้า  คือ                   

“การเลือกสรรวัสดุ    ปรับปรุงพัฒนากระบวนการต่าง ๆ   สร้างบรรจุภัณฑ์ที่เรียบง่าย”
นั่นคือหลักการออกแบบ 3 ข้อ ของ MUJI (มูจิ) ที่ยึดถือตลอดมา

                    หนังสือ พระเจ้าอยู่ในรายละเอียด กล่าวถึงเบื้องหลังความสำเร็จของมูจิ MUJI (มูจิ) ที่มีสาขาอยู่ทั่วโลกกว่า 700 สาขา และมีสินค้ามากกว่า 7,000 รายการ ช่วงเริ่มแรก MUJI (มูจิ) มีสินค้าเพียง 40 รายการ MUJI (มูจิ)  มีเอกลักษณ์อยู่ที่ “ความเรียบง่าย” ประกอบขึ้นมาจากประสบการณ์จากพนักงานทุกคนของมูจิ ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นสิ่งที่เรียกว่า ‘คู่มือการทำงาน’ หรือ MUJIGRAM หนากว่า 2,000 หน้า และหากเพื่อนๆ เป็นอยากรู้ว่า

  • MUJI สร้างผลิตภัณฑ์ที่เรียบง่ายและแสนวิเศษได้อย่างไร
  • บรรยากาศดีๆ ในร้าน MUJI เกิดจากอะไร
  • วิธียื่นข้อเสนองามๆ ให้ลูกน้องและพัฒนาพนักงานของร้าน MUJI ทุกแห่งให้เป็นบุคลากรที่มีคุณภาพสูงเป็นอย่างไร

                     หนังสือ พระเจ้าอยู่ในละเอียด จะให้คำตอบคุณ

คลิกสั่งซื้อ หนังสือ พระเจ้าอยู่ในรายละเอียด  ที่นี่ จากศูนย์สู่ซาร่า From Zero to ZARA

ชื่อหนังสือ : จากศูนย์สู่ซาร่า From Zero to ZARA

แบรนด์ที่กล่าวถึง : ZARA (ซาร่า)
ผลิตภัณฑ์ : เสื้อผ้า
สำนักพิมพ์ : อมรินทร์ How To                                   
ราคา: 315 บาท
ผู้แต่ง : Jesus Salgado y Xabier Blanco                   
ผู้แปล : นิรชร เกิดกฤษฏานนท์

 “ถ้าคุณอยากได้ประชากร 80 เปอร์เซ็นของโลกมาเป็นลูกค้า
ก็ต้องรู้ว่าเขาต้องการอะไร แล้วจัดให้อย่างเร็วที่สุด
-ส่วนหนึ่งจากหนังสือ จากศูนย์สู่ซาร่า-

                เกือบจะไม่มีแบรนด์ ซาร่า (ZARA) ถ้าไม่มีบาร์ที่ชื่อ Zorba! เพื่อนๆ อาจจะสงสัยว่าเกี่ยวข้องกันได้ไง มันคนละธุรกิจเลยนะ ก็เพราะว่า อามันซิโอ ออร์เตกา (Amancio Ortega) ผู้ก่อตั้งซาร่า (ZARA) มีหนังโปรดที่เขาชื่อชอบเรื่อง ‘Zorba the Greek’ ซึ่งเขามีความตั้งใจเหลือเกินที่จะตั้งชื่อร้านว่า Zorba แต่บาร์ในละแวกนั้นมีชื่อนี้ซะก่อน ด้วยความที่อยากประหยัดงบ เขาจึงซื้อตัวอักษร A มาเพียงตัวเดียวเท่านั้น และตัด  O และ B ออก จาก Zorba ก็กลายเป็น ZARA โอ้โห! สุดยอดแห่งความประหยัดและบังเอิญมากครับ แค่ที่มาของชื่อก็แปลกสุดๆแล้ว

               อามันซิโอ ออร์เตกา เป็นเพียงเด็กหนุ่มชาวสเปนบุคลิกเงียบขรึม คุณพ่อทำงานการรถไฟ ฐานะยากจน ต้องลาออกจากโรงเรียน  แล้วมาเป็นลูกจ้างในร้านขายเสื้อผ้าในมุมเล็กๆ ตั้งแต่อายุ 14 ปี จากนั้นเริ่มผลิตถุงผ้าอ้อมของเด็กทารก ขยับมาเป็นเสื้อคลุมอยู่บ้านของสตรี จนเติบโตมาเป็นแบรนด์ ZARA ที่ขายเสื้อผ้าให้กับคนทุกเพศทุกวัย มีร้านเสื้อผ้ากว่า 2,100 ช็อป ในกว่า 90 ประเทศ ขายเสื้อถึงราวๆ 12,000 แบบต่อปี กระแสรายได้ราวๆ 5 แสนล้านบาทต่อปี รวยจนแซง บิล เกตส์ ขึ้นมาเป็น คนที่รวยที่สุดในโลกแล้ว (ข้อมูลปี 2017)
ศูนย์สู่ซาร่า From Zero to ZARA
                หนังสือ จากศูนย์สู่ซาร่า From Zero to ZARA จะให้อะไรกับเรา? ต้องขอบอกก่อนเลยว่า อามันซิโอ (ปัจจุบันวัย 81 ปี) อภิมหาเศรษฐี ชอบทำตัวลึกลับโลว์โปรไฟล์ที่สุด  ไม่ค่อยให้สัมภาษณ์กับสื่อ แถมไม่เคยทำตัวตามแฟชั่น ทุกอย่างดูช่างค้านสูตรความสำเร็จของนักธุรกิจไปหมด ยิ่งทำให้โลกกระหายที่จะรู้จักบุคคลผู้นี้ ดังนั้นหนังสือจากศูนย์สู่ซาร่า From Zero to ZARA จะเป็นหนังสือเล่มแรกในโลก ที่จะตอบคำถามเหล่านี้ได้

  • ZARA ทำได้อย่างไรให้ ลูกค้าแวะเวียนมาร้านบ่อยกว่าแบรนด์อื่น 5 เท่า เจอถูกใจต้องซื้อเดี๋ยวนั้น
  • แฟชั่นที่ราคาจับต้องได้ ครองใจลูกค้าไฮเอนด์ด้วยจนบรรณาธิการนิตยสาร Vogue อังกฤษยังยอมรับว่าร้อยละ 70 ในตู้เสื้อผ้าของเธอเป็นของ ZARA
  • ได้โลเกชั่นร้านที่ดีที่สุดในทุกมุมโลก การตกแต่งหน้าร้านที่ผลัดเปลี่ยนและตอบโจทย์ตลอดเวลา
  • โลกต้องทึ่งในระบบขนส่งกระจายสินค้าที่รวดเร็ว ความผิดพลาดศูนย์เปอร์เซ็นต์ การจัดการสต็อกที่เยี่ยมยอด และวิธีลดต้นทุนเพื่อทำราคาที่ต่ำแต่ยังมีคุณภาพ

                Naiin Booktalk หวังว่าหนังสือ จากศูนย์สู่ซาร่า From Zero to ZARA ต้องมี ไอเดีย ข้อคิด หรือกลยุทธ์ ที่จะนำไปใช้กับธุรกิจของเพื่อนๆ ได้นะครับ

คลิกสั่งซื้อ หนังสือ จากศูนย์สู่ซาร่า From Zero to ZARA ที่นี่

HUAWEI จากมดสู่มังกร

ชื่อหนังสือ : HUAWEI จากมดสู่มังกร                                 

แบรนด์ที่กล่าวถึง : HUAWEI (หัวเว่ย)
ผลิตภัณฑ์ : สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ เครือข่ายโทรคมนาคมและบริการที่เกี่ยวข้องระบบฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เครือข่ายสำหรับลูกค้าองค์กร
สำนักพิมพ์ : อมรินทร์ How To                                     
ราคา : 315 บาท
ผู้แต่ง : หยางเช่าหลง                                                   
ผู้แปล : ชาญ ธนประกอบ

“แม้นวัตกรรมจะเป็นสิ่งที่ยากมาก
แต่มันคือทางรอดทางเดียวของธุรกิจและเป็นทางผ่านเดียวเพื่อไปให้ถึงความสำเร็จ
-ส่วนหนึ่งจากหนังสือ HUAWEI จากมดสู่มังกร-

                ถ้าพูดถึงชื่อแบรนด์สมาร์ทโฟน หนึ่งในแบรนด์ที่หลายคนจะนึกถึง ก็คือ HUAWEI (หัวเว่ย) ในปี 2017 ที่ผ่านมา HUAWEI (หัวเว่ย) ได้แซงหน้าคู่แข่งอย่างแบรนด์ แอปเปิ้ล (Apple) ขึ้นครองตำแหน่งแบรนด์โทรศัพท์มือถืออันดับที่ 2 ของโลกได้สำเร็จ หนังสือ HUAWEI จากมดสู่มังกร จะบอกเล่าเส้นทางการเติบโตอันน่าทึ่งของแบรนด์ HUAWEI (หัวเว่ย) จุดเริ่มต้นของธุรกิจ HUAWEI (หัวเว่ย)  ที่มีพนักงานเพียง 6 คนเท่านั้น การจับตามองการบริหารของ เหริน เจิ้ง เฟย เจ้าของ HUAWEI (หัวเว่ย) ที่ถูกจับตามองพอๆ กับ แจ็ค หม่า และปรัชญาอันล้ำลึกในการบริหารและดำเนินธุรกิจของ เหริน เจิ้ง เฟย ไว้อย่างน่าอ่านมาก  

                เล่มนี้จะให้อะไรกับเรา? เพื่อนๆ ลองนั่งนึกย้อนหลังไปสัก 20 ปีว่ามีแบรนด์จีนที่เป็นแบรนด์ระดับโลกหรือเปล่า ใช้เวลานึกดูครับ นึกไม่ออกล่ะซิ! ไม่แปลกครับ เพราะ 5,000 ปีผ่านมาประเทศจีนไม่เคยมีแบรนด์ระดับโลกเลย ดังนั้น HUAWEI (หัวเว่ย) ต้องเจอคู่แข่งที่น่ากลัวอย่าง แอปเปิ้ล กูเกิล และไมโครซอฟท์ รวมถึงต้องพิชิตใจลูกค้า ให้ยอมรับแบรนด์ HUAWEI (หัวเว่ย) เป็นแบรนด์ที่มีคุณภาพ ลบคำสบประมาทชื่อเสีย สินค้าปลอมและพ่อค้าอันธพาลอีกด้วย จะเห็นได้ว่า HUAWEI (หัวเว่ย) ไม่ได้เริ่มจากศูนย์ แต่เริ่มแบบติดลบด้วยซ้ำ

คลิกสั่งซื้อ หนังสือ HUAWEI จากมดสู่มังกร ที่นี่

แจ๊ค หม่า รองเท้ากังฟู กับหลักคิดในการทำธุรกิจ

ชื่อหนังสือ : แจ๊ค หม่า รองเท้ากังฟู กับหลักคิดในการทำธุรกิจ   

แบรนด์ที่กล่าวถึง : Alibaba (อาลีบาบา) บริษัท eCommerce ยักษ์ใหญ่จากประเทศจีน
ผลิตภัณฑ์ : ตลาดออนไลน์ของจีน เป็นช่องทางการซื้อขายสินค้า
สำนักพิมพ์ : วีเลิร์น (WeLearn)
ราคา: 270 บาท
ผู้แต่ง : หวังลี่เฟิน, หลี่เสียง           
ผู้แปล: ดร.ภูวกร ฉัตรบำรุงสุข

 “การยิ้มเย้ยยุทธจักรคืออะไร เราจะ ‘ยิ้ม’ ได้ก็ต่อเมื่อเรามีวิสัยทัศน์และปณิธาน
เราจะ ‘เย้ย’ ได้ก็ต่อเมื่อเรามีความภาคภูมิใจ ส่วนยุทธจักรที่เราหมายถึงก็คือแวดวงอินเทอร์เน็ตนั่นเอง
-ส่วนหนึ่งจากหนังสือ แจ๊ค หม่า รองเท้ากังฟู กับหลักคิดในการทำธุรกิจ-

                แจ๊ค หม่า เจ้าพ่ออีคอมเมิร์ซ ผู้สร้างปรากฏการณ์สะเทือนวงการขายทุเรียนที่ประเทศไทย โดยทำสถิต 1 นาที ขายหมอนทองไปได้มากกว่า 80,000 ลูก ผ่านทางเว็บไซต์ tmall.com  สร้างความประหลาดใจ และทำให้ราคาทุเรียนพุ่งสูงขึ้น ไม่น่าเชื่อเลยจากเด็กที่เกิดจากครอบครัวที่ยากจน เรียนหนังสือไม่เก่ง ถูกปฎิเสธจากการสมัครงานผิดหวังมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ต่อมาเขาก็ได้งานเป็น ครูสอนภาษาอังกฤษที่มหาลัย เงินเดือน 500 บาท  อ้าว! แล้วอะไรคือ “จุดพลิกผัน” ทำให้แจ๊ก หม่า เป็นเจ้าพ่ออีคอมเมิร์ซ

                หนังสือ แจ๊ค หม่า รองเท้ากังฟู กับหลักคิดในการทำธุรกิจ เล่มนี้ จะไขความลับ จุดพลิกผัน และบทบาททดสอบสำคัญที่หล่อหลอมตัวตนและวิธีคิดของนักธุรกิจอันดับหนึ่งของเอเชียให้ทุกคนได้ทราบ หลักคิดในการทำธุรกิจ ยังสรุปจุดพลิกผันทั้ง 27 ข้อของอาลีบาบา (Alibaba) ซึ่งผมบอกได้เลยว่า สิ่งเหล่านี้ถือเป็นกระบวนการเรียนรู้อย่างหนึ่ง และนี่ไม่ใช่การกล่าวเกินจริงเลยแม้แต่น้อย หนังสือ "แจ๊ค หม่า รองเท้ากังฟูกับหลักคิดในการทำธุรกิจ" เล่มนี้ จึงเป็นหนึ่งในโอกาสที่ดีที่สุดในการพัฒนาตัวเองสำหรับเพื่อนๆ ทุกคนครับ

คลิกสั่งซื้อ หนังสือ แจ๊ค หม่า รองเท้ากังฟู กับหลักคิดในการทำธุรกิจ ที่นี่

ขายเนื้อให้เหมือน หลุยส์ วิตตอง

ชื่อหนังสือ : ขายเนื้อให้เหมือน หลุยส์ วิตตอง

แบรนด์ที่กล่าวถึง : สินค้าไฮเอนด์จากสุดยอดแบรนด์ดังทั่วโลกมากกว่า 20 แบรนด์ เช่น  Victor Churchill ,Red Bull , Lamborghini, Supreme, Onitsuka Tiger
สำนักพิมพ์ :อมรินทร์ How To                                       
ราคา : 245 บาท
ผู้แต่ง : Lee Dong Chul                                                     
ผู้แปล : อาสยา อภิชนางกูร

 “กลยุทธ์ไฮเอนด์ คือ กลยุทธ์ที่มัดรวมทั้งสินค้า การตลาด การสร้างแบรนด์
และการบริหารเข้าไว้ด้วยกัน จากนั้นยกระดับคุณค่าของตัวเอง
ขึ้นไปในจุดที่ไม่มีใครสามารถแทนที่เราได้
-ส่วนหนึ่งจากหนังสือ ขายเนื้อให้เหมือน หลุยส์ วิตตอง-

                สำหรับหนังสือ ขายเนื้อให้เหมือน หลุยส์ วิตตอง  ขอบอกเลยครับว่าคุ้มค่า คุ้มราคามากๆ มีกรณีศึกษาแบรนด์แบบไฮเอนด์มากกว่า 20 แบรนด์ ที่จะทำให้เพื่อนๆ มองสินค้าไฮเอนด์เปลี่ยนไป  ความรู้สึกของใครหลายๆคนต่อสินค้าไฮเอนด์ คงเป็นสินค้าที่มีราคาแพง ภาพลักษณ์หรูหรา ราคาเอื้อมไม่ถึง แต่ผู้เขียนกลับให้นิยามว่า ผลิตภัณฑ์ไฮเอนด์หมายถึงผลิตภัณฑ์ที่ “ขายได้” ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ที่ "แพง" ซึ่งไม่ว่าผลิตภัณฑ์เหล่านั้นจะดึงดูดใจลูกค้าด้วยเทคโนโลยี ดีไซน์ หรือคุณค่า หากเป็นการใช้อาวุธเฉพาะตัวที่ตนมีก็ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ไฮเอนด์ได้ทั้งนั้น เช่น

  • Victor Churchill ร้านขายเนื้อ ประเทศออสเตรเลีย ตั้งราคาขายสูงกว่าร้านอื่น 30% แต่ยังมีลูกค้าต่อแถวซื้อตลอด
  • Red Bull ผลิตเครื่องดื่มที่ให้พลังงาน (Energy Drink) เข้าถึงลูกค้าในมิติอื่นที่มากกว่ารสชาติ
  • Lamborghini ผู้ผลิตรถยนต์ สัญชาติอิตาลี มาทีหลังแต่อยากชนะ จึงต้องวิ่งสวนทางกับ Ferrari ทั้งดีไซน์ เทคโนโลยี และปรัชญาการทำงาน
  • Supreme แบรนด์เสื้อผ้าแนวสตรีทจากนิวยอร์ก สร้างประตูร้านให้กว้างกว่าปกติ เพื่อลูกค้าเดินถือสเกตบอร์ดเข้าร้าน!
  • Onitsuka Tiger แบรนด์รองเท้ากีฬาแฟชั่นสัญชาติญี่ปุ่น พิชิตใจลูกค้าที่สนใจเรื่องคุณภาพมากกว่าราคาได้

                หนังสือเล่มนี้รวบรวมกลยุทธ์ที่หลากหลายของแบรนด์ไฮเอนด์ทั่วโลกแน่นอนว่าแบรนด์เหล่านั้นแตกต่างกันทั้งทางด้านรูปแบบ จุดกำเนิด และการเอาชนะอุปสรรค แต่ทั้งหมดนั้นมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันก็คือ การมีคุณค่าในแบบของตัวเอง ส่วนจะทำอย่างไรให้สินค้าของเราเป็นสินค้าที่ไม่มีใครแทนที่ได้ เรื่องราวของแบรนด์ไฮเอนด์ทั้งหลายในเล่มคือคำแนะนำชั้นดีที่จำทำให้สินค้าของคุณอยู่ในจุดที่เรียกตัวเองได้ว่า “สินค้าไฮเอนด์” อย่างแท้จริง

คลิกสั่งซื้อ หนังสือ ขายเนื้อให้เหมือน หลุยส์ วิตตอง ที่นี่

                นี่แหละครับหนังสือเกี่ยวกับการเรียนรู้ธุรกิจจากแบรนด์ดัง ที่นายอินทร์อยากแนะนำให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน เชื่อว่าหนังสือเล่มที่คัดสรรมาให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันนี้ จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ นายอินทร์ไม่มากก็น้อยนะครับ แต่ทั้งนี้นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของรายการหนังสือทั้งหมด หากเพื่อนๆ สนใจอยากหาหนังสืออ่านเพิ่มเติม สามารถดูรายการได้ที่นี่เลยครับ

หนังสือแนะนำ  How-to